aw yavee3-fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค...

201
§ÿµ∫–Œå (∫∑∏√√¡°∂“) «à“¥â«¬  ÿ®√‘µ∏√√¡ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม §ÿµ∫–Œå (∫∑∏√√¡°∂“) «à“¥â«¬  ÿ®√‘µ∏√√¡

Upload: others

Post on 17-Nov-2020

3 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

§ÿµ∫–Œå (∫∑∏√√¡°∂“) «à“¥â«¬

 ÿ®√‘µ∏√√¡

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

§ÿµ

∫–Œå (∫

∑∏√√¡

°∂“) «à“¥â«¬  ÿ®√‘µ

∏√√¡

Page 2: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วย

สุจริตธรรม

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

Page 3: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ผู้จัดพิมพ์ กรมการศาสนากระทรวงวัฒนธรรมผู้แต่ง คณะกรรมการจัดทำหนังสือคุตบะฮ์(บทธรรมกถา)ผู้แปลและเรียบเรียง นายอับดุลลอฮดาโอ๊ะและนายแวหามะดีแมปีที่พิมพ์ พ.ศ.2553จำนวนพิมพ์ 4,000เล่ม

ที่ปรึกษา 1. นายสดแดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา2. นายกฤษศญพงษ์ศิริ รองอธิบดีกรมการศาสนา3. นายเอนกขำทอง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม4. นายพิสิทธิ์นิรัตติวงศกรณ์ ผู้อำนวยการกองศาสนูปถัมภ์5. นางสาวภัคสุจิ์ภรณ์จิปิภพ เลขานุการกรมการศาสนา

ผู้รับผิดชอบดำเนินการ 1. นายอนุชาหะระหนี หัวหน้าฝ่ายประสานกิจการศาสนาอิสลาม2. นางสมจิตต์ปัญญา นักวิชาการศาสนาชำนาญการ3. นางสาวชวมนเลมงคล นักวิชาการศาสนาชำนาญการ4. นางสาววาสนาเพ็งสะและ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ5. นางสาวปริญญาภรณ์กิจบรรทัด นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ6. นายพีระพลอาแว นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ7. นายนพรัตน์ปันธิ เจ้าพนักงานการศาสนาปฏิบัติงาน8. นางสาวจิรภาเกิดนิมิตร นักวิชาการศาสนา

ปกและรูปเล่ม นายอนุชาหะระหนี

Page 4: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คำนำ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจและหน้าที่ในการสนับสนุนกิจการด้านศาสนา ตลอดจนส่งเสริมคุณธรรม ศีลธรรมประชาชนในชาติ ให้ประพฤติปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง เหมาะสม ตามหลักธรรมคำสอนของศาสนา ได้ร่วมกับคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ศาสนาอิสลามจัดทำหนังสือคุตบะฮ์(บทธรรมกถา)เกี่ยวกับคุณธรรม4ประการประกอบด้วยเมตตาธรรมสามัคคีธรรมสุจริตธรรมและเที่ยงธรรมในมิติของหลักธรรมคำสอนทางศาสนาอิสลาม เพื่อมอบให้แก่ผู้แสดงธรรมประจำมัสยิดต่าง ๆ ทั่วประเทศ นำไปแสดงคุตบะฮ์(บทธรรมกถา)ในวันศุกร์แก่ประชาชน หนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม เป็นการรวบรวมหลักธรรมคำสอนทางศาสนาเกี่ยวกับความสุจริตในมิติของหลักธรรมคำสอนทางศาสนาอิสลามไว้อย่างสมบูรณ์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถนำหลักคุณธรรมเกี่ยวกับความสุจริตไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมโดยมุ่งหวังให้เกิดการคิดดี ปฏิบัติดีต่อกัน อันเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความสมานฉันท์สามัคคีระหว่างกันของสมาชิกในสังคม กรมการศาสนา จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา)ว่าด้วยสุจริตธรรมเล่มนี้ จะเป็นแนวทางสำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมให้ชาวไทยมุสลิมประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันได้อย่างเข้มแข็งตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเพื่อความสงบสุขร่มเย็นของสังคมไทยสืบไป (นายสด แดงเอียด) อธิบดีกรมการศาสนา

Page 5: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1
Page 6: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

สารบัญ หน้า คุตบะฮ์วันศุกร์ เงื่อนไขและองค์ประกอบสำคัญ คุตบะฮ์ว่าด้วยสุจริตธรรม 1.สุจริตธรรมคุณธรรมค้ำจุนโลก 1 2.สุจริตธรรมนำสู่ความจำเริญ 5 3.สุจริตธรรมในครอบครัว 11 4.ผู้นำ-ผู้ตามในด้านสุจริตธรรม 15 5.ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เชิงความสุจริตธรรม 20 6.การถือความสัตย์เป็นที่ตั้ง 25 7.สุจริตธรรม 28 8.สุจริตวาจา(สุจริตธรรม) 32 9.คุณลักษณะมุสลิมด้านสุจริตธรรม 38 10.“การใช้ทรัพย์สินอย่างสุจริตธรรม” 43 11.“สุจริตธรรมและความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของความยำเกรง” 46 12.การละหมาดด้วยความสุจริตธรรมคือยอดแห่งอิบาดะห์ 51 13.สุจริตธรรมนำสังคมสู่สันติภาพ 56 14.“สุจริตธรรมนำสังคมให้พ้นวิบัติและต้องกำจัดที่ต้นตอ” 62 15.การทำงานโดยสุจริตธรรมเสริมสร้างศีลธรรม 67คุตบะฮ์ที่สอง 72ภาคผนวก คำสั่งกรมการศาสนาที่72/2553 77คำสั่งกรมการศาสนาที่111/2553 79

Page 7: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์วันศุกร์ เงื่อนไขและองค์ประกอบสำคัญ

เงื่อนไขของคุตบะฮ์วันศุกร์ มีดังนี้ 1. คอเต็บต้องยืนแสดงธรรมคุตบะฮ์ทั้งสอง ถ้าหากมีความสามารถยืนและต้องนั่งคั่นระหว่างสองคุตบะฮ์ หากไม่สามารถยืนได้ก็ให้นั่ง และให้นั่งนิ่ง ๆระหว่างสองคุตบะฮ์ 2. คุตบะฮ์ต้องอยู่ก่อนละหมาดวันศุกร์ มีฮะดีษจำนวนมากที่ยืนยันในเรื่องนี้และเป็นมติเอกฉันท์ 3. คอเต็บต้องสะอาด ปราศจากฮะดัษทั้งเล็กและใหญ่ และต้องปราศจากสิ่งโสโครก (นะยิส) ที่ศาสนาไม่ยอมอภัยให้ที่เสื้อผ้า ร่างกายและสถานที่ และต้องปกปิดเอาเราะห์ (อวัยวะที่ต้องปกปิด) เพราะคุตบะฮ์คล้ายกับละหมาดจึงมีเงื่อนไขเรื่องความสะอาดเหมือนกับละหมาด 4. ต้องอ่านรุกุนคุตบะฮ์เป็นภาษาอาหรับ คอเต็บจำเป็นต้องแสดงธรรมคุตบะฮ์ เฉพาะส่วนที่ เป็นรุกุนเป็นภาษาอาหรับ ถึงแม้ผู้ที่มาร่วมละหมาดญุมอะห์นั้นจะไม่เข้าใจภาษาอาหรับเลยก็ตาม 5. ต้องมีความต่อเนื่องกันระหว่างรุกุนคุตบะฮ์ ระหว่างคุตบะฮ์ทั้งสองและระหว่างคุตบะฮ์ที่สองกับละหมาดญุมอะห์ ถ้าหากมีสิ่งใดมาคั่นกันนานระหว่างคุตบะฮ์ที่หนึ่งกับคุตบะฮ์ที่สอง หรือระหว่างคุตบะฮ์กับละหมาด คุตบะฮ์นั้นถือว่าใช้ไม่ได้ ดังนั้นถ้าหากสามารถจะอ่านคุตบะฮ์อีกครั้งหนึ่งพร้อมละหมาดญุมอะห์ได้ทันในเวลาก็จำเป็นต้องกระทำแต่ถ้าไม่สามารถก็ให้ละหมาดดุห์ริ 6. จะต้องมีผู้ได้ยินคุตบะฮ์สี่สิบคนจากบุคคลที่ปฏิบัติญุมอะห์ใช้ได้

Page 8: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

รุกุน (องค์ประกอบสำคัญ) ของคุตบะฮ์ มีดังนี้ : 1. กล่าวคำสรรเสริญอัลลอฮ์ ด้วยคำใดก็ได้ 2. กล่าวคำซอลาวาตนบี (ซ.ล.) ด้วยการซอลาวาตรูปแบบใดก็ได้โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องกล่าวถึงท่านนบีอย่างชัดเจนเช่นใช้คำว่าแต่จะใช้ สรรพนามแทนไม่ได้ 3. กำชับให้มีการยำเกรงอัลลอฮ์ ตาอาลา จะด้วยถ้อยคำหรือสำนวนใดก็ได้ รุกุนทั้งสามนี้ เป็นรุกุนของทั้งสองคุตบะฮ์ ถ้าหากไม่มีรุกุนทั้งสามนี้อยู่ในคุตบะฮ์ก็จะใช้ไม่ได้ 4. อ่านอายะฮ์หนึ่งหรือส่วนหนึ่งของอายะฮ์อัลกุรอานในคุตบะฮ์ใด คุตบะฮ์หนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าอายะฮ์ที่อ่านนั้นจะต้องให้ความเข้าใจได้ และมีความหมายชัดเจน การอ่านอายะฮ์ที่เป็นอักษรย่อ ในตอนเริ่มต้นของซูเราะฮ์ต่างๆนั้นใช้ไม่ได้ 5. ขอพร (ดุอาห์) ในคุตบะฮ์ที่สองด้วยถ้อยคำที่เรียกกันว่าเป็นดุอาห์หมายเหตุ : รุกุน (องค์ประกอบ) ทั้ง 5 ประการนี้ ต้องแสดงเป็นภาษาอาหรับ ส่วนคำสอนและคำตักเตือนในคุตบะฮ์นั้นจะเป็นภาษาใดก็ได้

Page 9: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1
Page 10: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตธรรม คุณธรรมค้ำจุนโลก

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำเกรงอัลลอฮ์ และจงดำรงไว้ซึ่งความสุจริตธรรมเถิด อันที่จริงแรงกระตุ้นที่จะทำให้บุคคลหนึ่งมุ่งสู่การทำงาน เร่งเร้าให้ปฏิบัติภารกิจอย่างวิจิตรบรรจงอดทนเสียสละในหน้าที่การงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั้นมีปัจจัยมาจากหลายประการด้วยกัน บางประการเป็นปัจจัยโดยตรงซึ่งอาจจะมองเห็นได้พร้อมๆการงานที่ได้ปฏิบัติบางอย่างเป็นปัจจัยทางอ้อมที่ซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ซึ่งบางครั้งผู้ที่ปฏิบัติงานเองก็แทบจะไม่รู้สึกถึงอิทธิพลของปัจจัยตัวนี้ทั้งที่ในความเป็นจริงมันคือสาเหตุสำคัญที่คอยกระตุ้นให้เขาเกิดปฏิกิริยาที่จะกระทำหรือละทิ้งในสิ่งนั้นๆ อิสลามให้ความสำคัญกับหัวใจเพราะมันคือฐานของการตั้งเจตนาว่าจะสุจริตใจหรือไม่นั้นอยู่ที่หัวใจทั้งสิ้น ดังนั้นอิสลามจึงให้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดต่อเจตนาที่ควบคู่กับการกระทำ และให้ความสำคัญต่อแรงกระตุ้นและปฏิกิริยาที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำกิจการงานต่าง ๆ ของมนุษย์ และงานปฏิบัตินั้นจะเกิดมรรคเกิดผลและมีคุณค่าในทัศนะของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะต้องวางอยู่บนฐานของความสุจริตใจเป็นสำคัญ ดังที่ท่านบรมศาสดามูฮำหมัดศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า “แท้จริงกิจการงานทั้งหลาย (จะสมบูรณ์ได้) ก็ด้วยเจตนา และแต่ละคนจะได้รับผลตามที่ตนตั้งเจตนาไว้ ดังนั้นบุคคลใดที่การอพยพของเขาเพื่ออัลลอฮ์

Page 11: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

และศาสนฑูตของพระองค์ การอพยพของเขาก็ย่อมเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์ และศาสนทูตของพระองค์ และบุคคลใดที่การอพยพของเขาเพื่อโลกนี้เขาก็จะได้ รับมัน หรือเพื่อสตรีเขาก็จะได้แต่งงานกับนาง ดังนั้นการอพยพของเขาย่อม เป็นไปตามเจตนาที่เขาได้อพยพไป” (รายงานโดยบุคอรี)พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จิตใจที่ดีและบริสุทธิ์เพื่อพระเจ้าแห่งสากลโลกนั้นสามารถยกระดับกิจการงานแห่งโลกดุนยาที่เขากระทำขึ้นสู่ระดับกิจการงานทางศาสนา ซึ่งจะได้รับผลตอบแทน และในทางตรงกันข้ามการมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์แอบแฝงนั้นจะลบล้างการปฏิบัติคุณงามความดี ผู้กระทำจะไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทนเลยหลังจากที่ได้กระทำไปอย่างเหน็ดเหนื่อย นอกจากความล้มเหลวและความขาดทุน อาจจะมีใครบางคนได้สร้างปราสาทที่สูงเสียดฟ้า กว้างขวางโอ่อ่าล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์อันสวยงาม หากเขามีเจตนาในการก่อสร้างดังกล่าวนั้นด้วยความสุจริตธรรมเพื่อเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์แล้วเขาจะได้รับกุศลที่หลั่งไหลไม่ขาดสายดังหะดีษบทหนึ่งได้ระบุว่า “เล่าจากท่านอนัส รอดิยัลลอฮุอันฮู ว่า : ท่านศาสนฑูตแห่งอัลลอฮ์ ได้กล่าวว่า : ไม่มีมุสลิมคนใดที่ได้ปลูกต้นไม้หรือเพาะปลูกพืชพันธุ์แล้วมีนก มนุษย์ หรือสัตว์มากิน นอกจากกุศลทานย่อมเป็นของเขาด้วยการดังกล่าว” (รายงานโดยมุสลิม)พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย จิตใจที่ขาดความสุจริตใจไม่มีความสุจริตธรรมจะไม่ก่อให้เกิดผลการตอบรับแก่การปฏิบัติในสิ่งที่เขาได้กระทำลงไปเปรียบได้ดั่งหินที่ลื่นปราศจาก

Page 12: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

คราบดิน จะไม่มีพืชพันธุ์ ใด ๆ งอกเงยขึ้นมาได้ เปลือกนอกสุกใสสกาวย่อมไม่สามารถรักษาเนื้อในเน่าเสีย คุณค่าของสุจริตธรรมนั้นมันยิ่งล้ำค่าเสียนี่กระไร และความมีสิริมงคลของมันก็สูงส่งยิ่งอะไรปานนั้น การงานเพียงน้อยนิดหากผสมผสานด้วยความสุจริตใจก็จะเติบโตจนมีน้ำหนักเท่าภูเขา ในทางกลับกันการงานที่มากมายใหญ่หลวงหากปราศจากความสุจริตใจณอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาแล้วจะไม่มีน้ำหนักใดๆแม้เพียงเท่าผงธุลี ดังนั้นบุคคลใดก็ตามที่ชีวิตของเขาผูกพันอยู่กับข้อเท็จจริงที่กล่าวมาแน่นอนเขาจะดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข และพร้อมที่จะกลับคืนสู่พระองค์อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เขาจะไม่เสียดายต่อสิ่งที่สูญเสียไป และไม่เศร้าโศกเสียใจในสิ่งที่พลาดพลั้ง ดังวจนะของท่านศาสดา ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่ว่า

ความว่า “บุคคลใดได้ตายจากโลกนี้ไปโดยมีความสุจริตใจต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพียงองค์เดียว และสักการะต่อพระองค์โดยมิได้ตั้งภาคี ใด ๆ และดำรงการละหมาด และบริจาคซะกาต แน่นอนเขาได้ตายไปโดย ความพอพระทัยของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา” (รายงานโดยอิบนูมาญะฮ์)พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย พลังแห่งความสุจริตใจจะค่อย ๆ ดับรัศมีลงทีละน้อย ๆ ทุกขณะที่ความเห็นแก่ตัวได้เข้ามาครอบงำจิตใจ เกิดหลงชอบคำสรรเสริญเยินยออยากมีอำนาจอิทธิพล คลั่งไคล้ความสูงส่งและชื่อเสียง แต่พระองค์อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮู

Page 13: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

วะตะอาลา ทรงรักในกิจการงานที่บริสุทธิ์ปราศจากความขุ่นมัวของสิ่งที่น่าตำหนิทั้งหลายดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า:

ความว่า “พึงสังวรเถิดสำหรับอัลลอฮ์นั้นคือการนมัสการโดยบริสุทธิ์” (ซูเราะฮ์อัซซุมัรอายะฮ์ที่3) จากโองการดังกล่าวข้างต้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ความสุจริตใจนั้นเป็นรากฐานอันสำคัญของมนุษย์ที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า และที่มีต่อมนุษย์ร่วมโลก เพราะความสุจริตใจ ความสุจริตธรรมนั้นถือเป็นคุณธรรมที่สูงส่งในการค้ำจุนโลกให้เกิดสันติสุขอย่างแท้จริง ลักษณะของความสุจริตธรรมนั้น เป็นคุณธรรมทางศาสนาที่อิสลามประกาศยืนยันปรากฏอยู่ในหลักพื้นฐานทั่วๆไปด้วยการอธิบายว่าบทบัญญัติที่พระเจ้าดำรัสใช้กับมนุษย์นั้นวางอยู่บนกฎเกณฑ์ที่แน่นอน นั่นคือการศรัทธาการปฏิบัติคุณงามความดีไมตรีจิตและสุจริตใจ สุจริตธรรมในอิสลามเป็นศาสนบัญญัติ เป็นระบบที่ครอบคลุมวิถีชีวิตของมนุษย์ทั้งหมดที่สอดคล้องกับผู้คนในพื้นโลก เหล่าศาสนฑูตแห่งอัลลอฮ์ได้ร่วมกันก่อสร้างประภาคารแห่งความสุจริตธรรมและความสงบสุขบนโลกนี้ในทุกยุคทุกสมัย ในที่สุดสุจริตธรรมก็ได้หล่อหลอมบังเกิดขึ้นในจิตใจของบรรดาผู้ร่วมอุดมการณ์สารแห่งมูฮำหมัดศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมอย่างครบถ้วน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าความหมายแห่งสุจริตธรรมเหล่านี้จะซึมซาบเข้าไปในตัวของมนุษย์ และสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของภารดรภาพระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้นก็ด้วยความสุจริตใจเพื่อช่วยกันรังสรรค์ค้ำจุนโลกให้มีความสงบสุขอย่างยั่งยืน

Page 14: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตธรรม นำสู่ความจำเริญ

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เมื่อท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้รับการต้อนรับกลับบ้านเกิดนครมักกะห์ ท่านได้เข้ายังมัสยิดหะรอม ได้ตอวาฟ (เวียนรอบ) วิหารกะอ์บะฮ์หลังเสร็จการตอวาฟ ท่านได้เรียก อุสมานบินฎอลหะฮ์ผู้ถือกุญแจกะอ์บะฮ์-ท่านเก็บกุญแจนั้นไว้ เมื่อท่านได้จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เข้าไปด้านในวิหารกะอ์บะฮ์ ท่านได้ละหมาดด้านประตูกะอ์บะฮ์แล้วกล่าวว่า “ลาอิลาฮ่าอิลลั้ลลอฮุวะห์ดะฮ์ ศอดาก้อวะอ์ดะฮ์ วะนะศ่อร่ออั๊บดะฮ์ วะฮะซะมั้ลอะห์ซา บ่าวะห์ดะฮ์” จากนั้นท่านออกมาแล้วนั่งที่มัสยิด บัดนั้นท่านอะลี บิน อะลีฎอลิบรอดิยัลลอฮุอันฮู ได้กล่าวว่า “โอ้ศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ โปรดให้พวกเราทำหน้าที่ เป็นผู้ดูแลกะอ์บะฮ์ และบริการน้ำ” (แทนอุสมาน) ท่านนบีมิได้พูดว่ากระไรแต่ได้เรียกหาว่า “อุสมาน บิน ฎอลหะฮ์อยู่ไหน?” เมื่อมีผู้นำอุสมานมาต่อหน้าท่านนบี ท่านได้กล่าวแก่อุสมานว่า “เอ้านี่กุญแจกะอ์บะฮ์ของท่านรับไป โอ้อุสมานวันนี้ เป็นวันดีวันแห่งการรักษาสัญญา” แล้วอัลลอฮ์ก็ประทานอัลกุรอานความว่า

“แท้จริงอัลลอฮ์ทรงบัญชาใช้พวกเจ้าให้สะสางเรื่องกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ แก่เจ้าของสิทธิ์นั้น”(ซูเราะฮ์อันนิซาอ์อายะฮ์ที่58)

Page 15: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความจากเรื่องที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่าท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ปฏิเสธที่จะมอบกุญแจกะอ์บะฮ์ให้ท่านอะลีที่รับอาสาบริการผู้ประกอบพิธีฮัจย์แต่ท่านนบีมอบให้ท่านอุสมาน บินฎอลหะฮ์ เพื่อเป็นไปตามพระบัญชาของอัลลอฮ์ที่ใช้ให้มอบกรรมสิทธิ์ต่างๆแก่เจ้าของกรรมสิทธิ์นั้น สุจริตธรรม หมายความตามภาษาว่า ความประพฤติชอบ สุจริตใจบริสุทธิ์ใจ และมักใช้คู่กับคำ “ซื่อสัตย์” ว่า “ซื่อสัตย์สุจริต” ซึ่งครอบคลุมภาษาอาหรับว่า “อัลอะมานะห์” และ “อัลอิคลาส” ซึ่งมีความหมายว่า การให้และรักษาสิทธิ์โดยครบถ้วนถูกต้องอย่างสุจริตใจ ดังนั้น มุสลิมต้องให้กรรมสิทธิ์แก่ เจ้าของสิทธิ์ โดยสมบูรณ์ ทั้งสิทธิ์ของอัลลอฮ์ในการปฏิบัติศาสนกิจและควบคุมทุกอวัยวะมิให้ล่วงล้ำสู่การต้องห้าม และสิทธิ์ของผู้อื่นที่ต้องคืนให้เจ้าของสิทธิ์อย่างครบถ้วนพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย นอกจากอัลลอฮ์จะทรงบัญชาให้ปฏิบัติตามสิทธิ์ของตนและคืนสิทธิ์แก่เจ้าของสิทธิ์โดยสุจริตธรรมแล้ว ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ยังให้น้ำหนักความมีสุจริตธรรมเป็นเครื่องหมายแสดงความศรัทธาของบุคคลด้วยโดยท่านกล่าวความว่า

“ไม่ถือว่ามีศรัทธาอันสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ไม่มีความสุจริตธรรม” (รายงานโดยอาหมัด) การมีสุจริตธรรม เป็นคุณธรรมและพื้นฐานสำคัญของอิสลาม ซึ่งต้องมีอยู่ในทุกกระบวนท่าของการดำรงชีพในภพนี้สำหรับศรัทธาชนที่แท้จริง เพราะสุจริตธรรมมีหลากหลายเช่น

Page 16: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตธรรมต่อศาสนกิจ โดยปกติของมุสลิมต้องมีหน้าที่ปฏิบัติสิทธิ์ของศาสนกิจ ต้องดำรงการละหมาด ถือศีลอด กตัญญูต่อบิดามารดา เป็นอาทิการเหล่านี้ถือเป็นภารกิจที่อัลลอฮ์ทรงมอบหมายไว้ จึงจำเป็นต้องคืนสิทธิ์อันบริบูรณ์แก่พระองค์ สุจริตธรรมต่อร่างกาย มุสลิมต้องระวังรักษาอวัยวะทุกส่วนให้ถูกใช้ไปตามสิทธิ์อันชอบธรรมของมัน มิให้มันตกอยู่ในการต้องห้าม ดังนั้น ตาต้องไม่ใช้มองสิ่งต้องห้าม หูต้องไม่ใช้ฟังสิ่งไร้สาระและเป็นบาป มือต้องไม่กระทำการที่ผิดศาสนา ปากต้องไม่ใช้เพื่อการโกหก ให้การเป็นพยานเท็จ และให้ร้ายผู้อื่นและเท้าต้องไม่ย่างกรายไปสู่การชั่วเป็นต้น สุจริตธรรมต่อของฝาก เมื่อมีผู้ไว้วางใจฝากของไว้ มุสลิมมีหน้าที่ดูแลรักษาของฝากนั้นมิให้บกพร่องหรือสูญหายและต้องคืนของนั้นให้ครบถ้วนแก่ผู้เป็นเจ้าของ หากเขาต้องการหรือครบกำหนดฝากในสภาพที่สมบูรณ์ดังตัวอย่างที่ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ปฏิบัติต่อพวกมุซริกีนมักกะห์ ซึ่งพวกเขาเชื่อในความซื่อสัตย์สุจริตของท่านนบีจึงได้ฝากสิ่งของไว้เป็นจำนวนมาก และเมื่อท่านนบีจำต้องอพยพไปเมืองมะดีนะห์อย่างกะทันหันท่านจึงขอให้ท่านอะลี รอดิยัลลอฮุอันฮู อยู่ที่มักกะห์ก่อน เพื่อสะสางจัดการคืนของฝากอันเป็นสิทธิ์ของชาวมักกะห์แก่เจ้าของเสียก่อน สุจริตธรรมต่อคำพูด คำพูดของคนเรานั้นสำคัญยิ่งนัก บางครั้งจะดูว่าใครดีหรือเลวอาจดูจากคำพูดได้ เหมือนสำนวนไทยที่ว่า “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” อัลลอฮ์ตรัสเป็นอุทาหรณ์ในอัลกุรอานบทอิบรอฮีมอันเกี่ยวกับคำพูดที่ดีและคำพูดที่ไม่ดีความว่า

Page 17: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“เจ้าเห็นแล้วมิใช่หรือ อัลลอฮ์ทรงชักตัวอย่างคำพูดที่ดี เปรียบเสมือนต้นไม้ที่ดี อันรากของมันหยั่งลงยึดแน่นอยู่ และยอดของมันชะลูดขึ้นสู่ฟ้า” (ซูเราะฮ์อิบรอฮีมอายะฮ์ที่24)

“และคำพูดที่เลวเปรียบเสมือนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา ซึ่งมีแต่ถูกถอนทิ้ง จากพื้นดินไม่มีที่มั่นคง”(ซูเราะฮ์อิบรอฮีมอายะฮ์ที่26) คำพูดที่สุจริตธรรม นอกจากจะได้รับการตอบรับจากผู้ฟังด้วยดีแล้วยังถือเป็นการบริจาคทานที่จะส่งให้ผู้พูดได้กุศลอันยิ่งใหญ่ด้วย ท่านนบีศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมพจนารถว่า

“และคำพูดที่ดีนั้น เป็นการบริจาคทานหนึ่ง”(รายงานโดยมุสลิม) สุจริตธรรมต่อการทำงาน ผู้มีหน้าที่การงานที่ต้องปฏิบัติ เขาต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รับผิดชอบในหน้าที่อย่างเคร่งครัด มีความซื่อสัตย์สุจริตในหน้าที่นักเรียนนักศึกษาต้องทำหน้าที่การเรียนอย่างขยันขันแข็ง ไม่ทุจริตในการสอบและต้องเชื่อฟังและเคารพต่อครูอาจารย์และบิดามารดา ดังนั้น การทำงานทุกอย่างโดยสุจริตมีแต่คนไว้วางใจและขอพรให้ย่อมได้ดีมีแต่จำเริญ หน้าที่การงานทุกประเภท ต้องปฏิบัติให้เต็มกำลังความสามารถและด้วยสุจริตใจเพราะทุกภาระหน้าที่นอกจากจะมีการตรวจสอบจากหัวหน้างานแล้วทุกคนต้องได้รับการตรวจสอบจากอัลลอฮ์ตะอาลาด้วย ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวความว่า

Page 18: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“พวกท่านทั้งหลายล้วนมีหน้าที่รับผิดชอบแล้วต้องถูกสอบในหน้าที่นั้น ดังนั้น ผู้นำที่ปกครองปวงชน เขาก็ถูกสอบที่เกี่ยวกับปวงชน สามีมีหน้าที่ รับผิดชอบต่อครอบครัวของเขา เขาต้องถูกสอบที่เกี่ยวกับครอบครัวเหล่านั้น ภรรยามีหน้าที่รับผิดชอบดูแลบ้านและลูก ๆ สามีและนางต้องถูกสอบด้วย และคนรับใช้ก็มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของเจ้านาย ซึ่งเขาต้องถูกสอบเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น พวกท่านทุกคนถือว่ามีหน้าที่รับผิดชอบและพวกท่านก็จะต้องถูกสอบงาน ในหน้าที่ทุกคน”(รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม) สุจริตต่อความลับ เรื่องและข่าวบางอย่างเป็นความลับเฉพาะตัวหรือเฉพาะกลุ่ม หรือเฉพาะราชการที่ต้องปกปิด เพราะหากเปิดเผยจะส่งผลเสียต่อผู้เกี่ยวข้องและถ้าเป็นความลับของประเทศหากเปิดเผยไปก็จะส่งผลเสียมหาศาล ดังนั้น ความลับถือเป็นสิทธิ์ที่จะต้องปกปิด หากเปิดเผยก็จะเป็นการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งถือเป็นการทุจริต และไม่สุจริตต่อสิทธิ์ของความลับ ท่านนบีศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

“เมื่อคนหนึ่งได้สนทนา (กับคนหนึ่ง) โดยเจตนาให้เป็นความลับ แล้วหันจากไป คำพูดนั้นถือเป็นหน้าที่ (ที่ต้องปฏิบัติตามสิทธิ์ของความลับ คือต้องไม่เปิดเผย)”(รายงานโดยอะบูดาวูดและติรมิซีย์) สุจริตธรรมต่อการค้าขาย การค้าขายต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากจึงต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาเปรียบและคดโกงลูกค้า การไม่สุจริตในการค้าขายนอกจากจะเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจแล้วยังถือเป็นบาปอีกด้วย“ท่านนบีเคยเดินตลาด เห็นคนขายอาหารตั้งเป็นกอง ๆ ท่านเอามือล้วงไปใต้กองอาหารนั้นปรากฏว่าเปียกแฉะ ท่านถามคนขายว่า นี่มันอะไรกันนี่? คนขายตอบว่า มีฝนตกลงมาทำให้อาหารเปียก ท่านนบีจึงถามเชิงตำหนิว่า

Page 19: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

แล้วเจ้าทำไมไม่เอามันกองให้คนได้เห็นชัด ๆ ล่ะ? ท่านกล่าวต่อว่า “ผู้หลอกลวง ไม่นับเป็นพวกของฉัน” (รายงานโดยมุสลิม)

Page 20: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตธรรมในครอบครัว

ท่านพี่น้องผู้มีศรัทธาที่เคารพ ขอให้ท่านพี่น้องทั้งหลายจงยำเกรงพระองค์อัลลอฮ์เถิด ด้วยการปฏิบัติสิ่งที่พระองค์ทรงใช้และละเว้นห่างไกลจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามแล้วท่านทั้งหลายจะได้ถูกขนานนามว่า “อัลมุตตะกีน” ที่พระองค์จะทรงตอบแทนความสุขให้พวกเขาในวันกิยามะห์ด้วยการให้เข้าสวนสวรรค์ของพระองค์ ความสุจริตเป็นคุณธรรมอีกประการหนึ่งที่มุสลิมทั้งหลายจะต้องมีประจำใจไม่ว่าจะเป็นการพูดการกระทำหรือความคิดก็จะต้องอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมข้อนี้การไม่พูดเท็จไม่หลอกลวงไม่บิดพลิ้วในสัญญาถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนมุสลิม การทำความดีและการยึดเอาความถูกต้องเป็นหลัก คือความสุจริต ความสุจริตนั้นจะต้องเกิดขึ้นทั้งทางใจ ทางวาจา และการกระทำความสุจริตทางใจนั้นหมายถึงการคิดดีมีจิตใจบริสุทธิ์ไม่อิจฉาริษยาไม่มีกิเลสใด ๆ อยู่ในจิตใจ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บุคคลนั้นได้เข้าสวนสวรรค์ ดังมีรายงานเรื่องของศอฮาบะห์ท่านหนึ่ง ในสมัยของท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมที่เป็นผู้มีจิตใจสุจริตซึ่งมีรายงานดังต่อไปนี้ รายงานจากท่านอนัส บินมาลิก รอดิยัลลอฮุอันฮู ได้กล่าวในขณะที่พวกเราได้นั่งอยู่กับท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้

Page 21: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

กล่าวว่า จะมีชายชาวสวรรค์คนหนึ่งมาปรากฏตัวต่อพวกเรา ต่อมาได้มีชายชาวอันศ็อรคนหนึ่งมาปรากฏตัวต่อพวกเรา โดยที่เคราของเขามีน้ำไหลหยดจากน้ำละหมาดของเขา เขาได้ถือรองเท้าทั้งสองข้างของเขาด้วยมือซ้ายพอวันรุ่งขึ้นท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ได้กล่าวเหมือนเดิมชายคนดังกล่าว ก็ได้ปรากฏตัวเหมือนกับครั้งแรก พอวันที่สาม ท่านนบีศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็กล่าวเช่นเดิม แล้วชายคนนี้ก็ปรากฏดังเคยเหมือนครั้งแรก เมื่อท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ลุกยืนขึ้นท่านอับดุลเลาะห์ บินอัมร์ บินอาศ จึงเดินตามเขาไป และกล่าวกับเขาว่าฉันทะเลาะกับบิดาของฉันและฉันได้สาบานว่า ฉันจะไม่ไปหาเขาสามวัน หากท่านเห็นว่าท่านควรให้ฉันพักอยู่กับท่านจนกว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวท่านจงกระทำเถิด เขากล่าวว่า ได้ซิ อนัสเล่าว่า อับดุลเลาะห์ได้เล่าให้เขาฟังว่าเขาได้นอนอยู่กับชายคนดังกล่าวสามคืน เขาไม่เห็นว่าชายคนนั้นได้ลุกขึ้นตอนกลางคืนเลย นอกจากเมื่อเขาตื่น เขาก็จะพลิกตัวบนที่นอนของเขา เขาจะกล่าวถึงอัลลอฮ์และกล่าวตักบีรจนกระทั่งเขาลุกขึ้นละหมาดฟัจร์ อับดุลเลาะห์กล่าวว่าแต่ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดนอกจากความดีเมื่อเวลาผ่านไปสามคืนแล้วจนฉันเกือบจะดูถูกความดีของเขาที่ทำว่าน้อยเหลือเกิน ฉันได้กล่าวความจริงแก่เขาว่า โอ้อับดุลเลาะห์ ระหว่างฉันกับบิดาของฉันไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองและไม่พูดจากัน แต่ฉันได้ยินท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวเกี่ยวกับตัวท่านสามครั้งว่า จะมีชายชาวสวรรค์ปรากฏตัวต่อพวกท่านในขณะนี้และท่านก็ปรากฏตัวขึ้นทั้งสามครั้ง ฉันต้องการมาพักกับท่าน เพื่อฉันจะดูท่านว่าท่านทำอะไรบ้าง แล้วฉันจะทำตามท่าน แต่ฉันไม่เห็นว่าท่านทำอามั้ลใหญ่โตเลยแล้วสิ่งใดเล่าเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านบรรลุถึงสิ่งที่ท่านร่อซู้ลได้พูดถึง เขากล่าวว่าไม่มีอะไรหรอกนอกจากสิ่งที่ท่านเห็น และเมื่อฉันจะกลับออกไป เขาได้เรียกฉันแล้วกล่าวว่า

Page 22: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ไม่มีสิ่งใดนอกจากสิ่งที่ท่านเห็น แต่ฉันไม่พบในตัวฉันว่ามีการอาฆาตผู้ใดจากบรรดามุสลิมและฉันไม่เคยอิจฉาคนหนึ่งคนใดเลยในความดีที่พระองค์ทรงประทานแก่เขา ท่านอับดุลเลาะห์จึงกล่าวว่า นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ท่านบรรลุถึง(รายงานโดยอะบูยะอ์ลาและท่านบัซซาร) นี่คือตัวอย่างของคนที่มีความสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เพราะเขาเป็นคนที่มีคำพูดที่ดี มีความคิดดี มีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่อิจฉาริษยา ไม่อาฆาตแค้นไม่มีกิเลสใด ๆ อยู่ในจิตใจของเขา ส่วนความสุจริตทางวาจาและการกระทำนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคม เพราะการสุจริตทางวาจาและการกระทำนั้น จะทำให้บุคคลไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่นเป็นคุณสมบัติของมุสลิมดังที่ท่านบบีศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

ความว่า มุสลิมนั้นคือ บุคคลที่มุสลิมทั้งหลายได้รับความปลอดภัยจากวาจาและการกระทำของเขา(รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม) นอกจากนี้ ความสุจริตทางการกระทำยังครอบคลุมถึงการไม่ทำลายสิ่งของที่เป็นสาธารณประโยชน์ เช่น ต้นไม้ และธรรมชาติต่าง ๆ ที่พระองค์อัลลอฮ์ได้สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์โลกด้วย การมีความสุจริตทั้งกายวาจาและจิตใจหากนำมาใช้ในครอบครัวแล้วจะทำให้ครอบครัวนั้นเป็นครอบครัวที่มีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ เนื่องจากบรรดาสมาชิกในครอบครัวต่างไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่สร้างความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน พูดจาสนทนากันด้วยคำพูดที่ไพเราะด้วยความจริงใจ ความสมานฉันท์ก็จะเกิดขึ้นภายในครอบครัว และเมื่อออกไปประกอบอาชีพเพื่อ

Page 23: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

แสวงหาปัจจัยมาหล่อเลี้ยงครอบครัว รายได้ที่ได้มาจากการประกอบอาชีพก็เป็นรายได้ที่บริสุทธิ์ มีบารอกัต (สิริมงคล) เพราะเกิดจากการประกอบอาชีพที่สุจริต เนื้อหนังของสมาชิกของครอบครัวที่เจริญเติบโตขึ้นมาก็เป็นเนื้อหนังที่เจริญเติบโตขึ้นมาด้วยเครื่องอุปโภค บริโภคที่ฮาลาล อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้บรรดาบุคคลเหล่านั้นเป็นบุคคลที่อยู่ในหลักการของศาสนา ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ศาสนาห้ามหรือเป็นบาป เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ สามารถที่จะช่วยเหลือและพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ สังคมใดก็ตามหากประกอบขึ้นจากครอบครัวที่มีคุณภาพ มีศักยภาพสังคมนั้นก็เป็นสังคมที่เข้มแข็ง เป็นสังคมที่สามารถพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าได้เป็นสังคมที่ปราศจากอบายมุขทั้งหลาย และปลอดภัยทั้งร่างกายและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยเป็นสังคมที่น่าอยู่เพราะสมาชิกของสังคมนี้ล้วนเป็นคนดี จำเป็นอย่างยิ่งที่เราท่านทั้งหลายจะต้องนำเอาสุจริตธรรมมาใช้ เริ่มตั้งแต่ภายในครอบครัว จนกระทั่งการนำธรรมข้อนี้ไปใช้ในสังคม เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งใช้ของอัลอิสลามที่ไม่ให้สร้างความเดือดร้อน อันตรายให้กับตัวเองและผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นก็ตาม ดังที่ท่านนบีศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

ความว่า ไม่มีการทำความเดือดร้อนใดๆต่อตัวเองและผู้อื่น. (รายงานโดยอะหฺมัด.)

Page 24: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ผู้นำ-ผู้ตามในด้านสุจริตธรรม

คำว่า“สุจริต”ตามพจนานุกรมหมายถึงความประพฤติชอบบริสุทธิ์ใจจริงใจ เช่น เขาช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ส่วนคำว่า“ธรรม” นั้น หมายถึง คำสั่งสอนในศาสนา ซึ่งเมื่อนำเอาคำว่าสุจริตและคำว่าธรรมมารวมกันก็ได้ความหมายว่า “พฤติกรรมที่บริสุทธิ์ตามคำสั่งสอน ของศาสนา” ซึ่งก็หมายถึง มีวจีกรรม พฤติกรรม และมโนกรรมที่บริสุทธิ์ตามหลักคำสอนของศาสนานั่นเองศรัทธาชนที่เคารพทุกท่าน การอยู่ร่วมกันจำเป็นต้องมีผู้นำและผู้ตาม มิใช่ทุกคนเป็นผู้นำแล้วก็ไม่ใช่ทุกคนเป็นผู้ตาม ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต้องการเป็นผู้นำ ปัญหาทางสังคมจึงเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ความอยาก ความต้องการอย่างนี้เป็นเรื่องที่ขัดกับหลักการของศาสนาแห่งเรา ในสมัยอดีตผู้นำเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อถือได้รับการยกย่องจากผู้คนด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ใจ เรียกได้ว่า “ผู้นำ ทางธรรมชาติ” ไม่ต้องผ่านการสรรหา ไม่ต้องผ่านการสมัคร ไม่ต้องผ่านการเลือกตั้งไม่ต้องผ่านการหาเสียงเป็นประชามติโดยเอกฉันท์ว่าคนๆนั้นคือผู้นำปวงชน เพราะเขาอยู่ในใจของคนทุกคน เขามีสภาวะการนำที่ทุกคนยอมรับโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

Page 25: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

มาในปัจจุบัน ผู้นำทางธรรมชาติสูญพันธุ์ไป จึงต้องมีการสรรหามีการเสนอ มีการรับรอง มีการสมัคร มีการหาเสียง มีการเลือกตั้งใช้เสียงของประชาชนที่เรียกว่า “อำนาจ” ที่เรียกว่าอำนาจเป็นของมวลชนมาเป็นตัวตัดสินมองดูสะอาดดี แต่ละขั้นตอนแปดเปื้อนไปด้วยปัญหา แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ก่อปัญหา แปลว่า ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่มีการศึกษา ผู้นำก็เป็นผู้ไม่มีการศึกษา ถ้าคนส่วนใหญ่เลวผู้นำก็จะได้กับคนเลวต่อให้มีโต๊ะอิหม่ามสักร้อยคนเจ้าอาวาสอีกสักร้อยคน ร่วมคัดสรรอยู่ด้วยก็จะได้กับคนส่วนใหญ่ ดังนั้นหากคนส่วนใหญ่มี 800 คน บวกกับโต๊ะอิหม่ามอีก 100 คน และเจ้าอาวาสอีก 100 คน ผู้นำก็จะได้กับคนส่วนใหญ่ ก็จะไม่ได้กับคนดี ๆ อย่างโต๊ะอิหม่ามดี ๆและเจ้าอาวาสดีๆ คงไม่ขอเสนอในแง่การได้มาซึ่งผู้นำ แต่จะเสนอถึงสุจริตธรรมที่ต้องมีอยู่ในตัวผู้นำ มีคำสอนทางศาสนากล่าวว่า โลกนี้อยู่ ได้อย่างมีความสุข สันติด้วยปัจจัย4ประการ 1.ด้วยความรู้ของผู้รู้ 2.ด้วยความยุติธรรมของผู้นำ 3.ด้วยความใจบุญของคนรวย 4.ด้วยการขอพรของคนยากคนจน ศาสดามูฮำหมัด คุณสมบัติของท่านที่ต้องตามประการหนึ่ง คือ“อัซซิดกุ” ซึ่งแปลว่า “สัจจะ” ซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมาบนพื้นฐานแห่งหลักธรรมในด้านคำพูด(วจีกรรม)ท่านได้กล่าวไว้ว่า

ซึ่งหมายความว่า “แท้จริงการมีสัจจะนั้นนำไปสู่ความดี และการมี ความดีนั้นนำไปสู่สวรรค์” ในกุรอานกล่าวว่า

Page 26: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ซึ่งมีความว่า “และพวกท่านจงเป็นอยู่ร่วมกับบรรดาสุจริตชน” (ซูเราะฮ์อัตเตาบะฮ์อายะฮ์ที่120) ในทางพฤติกรรม ท่านก็เป็นที่ยอมรับของปวงชน ว่าเป็นผู้ทรง“อัล-อามีน” ไว้ใจได้ตั้งแต่ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งจากอัลลอฮ์ให้เป็นรอซู้ลท่านไม่เคยสั่งให้รุดหน้า ให้ไปข้างหน้า นอกจากยังสถานที่ที่มีความปลอดภัยแต่ท่านจะใช้คำพูดว่า “จงตามข้าพเจ้ามา” แปลว่า ท่านจะต้องเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างก่อนในเรื่องการธำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยแต่หากเป็นเรื่องของเกียรติยศท่านจะสั่งให้บรรดาศอฮาบะห์ของท่านนำหน้า และท่านเดินตาม ดังในหนังสือบัรซันยีตอนหนึ่งกล่าวว่า

ซึ่งแปลว่า “พวกท่านจงทำให้ด้านหลังฉันว่างเพื่อมลาอีกะฮ์” ในทางมโนกรรม แน่นอนบ่งชี้ให้เห็นถึงมโนกรรมของท่านได้ทางพฤติกรรมและวจีกรรมดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าเป็นใครเมื่อมีสุจริตธรรม คนนั้นต้องได้รับการยกย่อง คำว่าสุจริตธรรมเมื่อมีในผู้นำ-ผู้ตาม สังคมจะเป็นสุข นั่นหมายถึงผู้นำมีสุจริตธรรมเพื่ออัลลอฮ์ ผู้ตามมีสุจริตธรรมเพื่ออัลลอฮ์ ไม่ได้เลือกแสดงความสุจริตธรรมเฉพาะที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ในเรื่องใดๆจากกิน-กาม-เกียรติแก่ตนเองเท่านั้นหากแต่ต้องรักษา เกาะเกี่ยว ยึดเหนี่ยวไว้ แม้จะไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์แก่ตัวเองหรือบุคคลที่ต้องการก็ตาม หากได้แสดงออกซึ่งอาการใด ๆ เพื่ออัลลอฮ์ คนที่แสดงออกก็จะไม่มีอาการท้อแท้ ไม่มีความรู้สึกว่าเสียเปรียบ หรือกลัวถูกประณามว่า “โง่” เพราะทำเพื่ออัลลอฮ์

Page 27: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ตัวอย่างเช่น เราปฏิบัติดีต่อภรรยาและสมาชิกภายในบ้านแต่เราไม่ได้รับการปฏิบัติดีตอบ แน่นอนเราจะเกิดความท้อแท้ แต่หากเราทำไปเพื่ออัลลอฮ์เพราะมันคือหน้าที่ของเรา เราก็จะมีความภูมิใจที่เราได้ทำเพื่ออัลลอฮ์ ดังนั้นเมื่อเราทำเพื่อภรรยาหรือเพื่อลูก ๆ ของเรา พวกเขากลับไม่ทำดีตามคำแนะนำของเรา ก็ช่างเขา เราพ้นหน้าที่แล้ว เราได้ทำเพื่ออัลลอฮ์แล้ว และเราก็จะทำต่อไปโดยไม่ท้อแท้ ไม่รู้สึกในเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ หรือถูกประณามว่าเป็น“ไอ้โง่” อย่าท้อแท้นะครับ ในสมัยของท่านศาสดานั้น มีคนรวยไปขโมยของคนอื่น เมื่อถูกจับได้ก็ยังติดสินบนท่านนบีท่านนบีศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

ความว่า “หากฟาติมะฮ์บุตรสาวของมูฮำหมัดเป็นคนขโมย ฉันก็ต้อง ตัดมือนาง” แปลว่าไม่เลือกปฏิบัติไม่เห็นกับครอบครัวไม่เห็นแก่ญาติพี่น้องทุกคนต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ความสุจริต นอกจากจะเป็นผลดีแก่ผู้ปฏิบัติเองแล้ว คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นพรรคพวกญาติพี่น้องก็พลอยได้รับรังสีแห่งความดีนั้นไปด้วยและก็ทำให้คนเลวๆได้แง่คิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้เช่นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่จะไปศึกษาหาความรู้ก่อนจะเดินทางไปแม่ได้ให้เงินติดตัวไป40ดีนารแล้วสั่งเสียว่าลูกต้องเป็นผู้ที่มีความสุจริตในทุก ๆ เรื่อง ปรากฏว่าขณะเดินทาง กองโจรได้ปล้นสดมภ์ผู้โดยสารในพาหนะนั้นเพื่อยึดทรัพย์สินที่มีค่า โดยที่ทุกคนจะถูกถามจากหัวหน้ากองโจรนั้นว่า “มีอะไรติดตัวมาบ้าง นำออกมาให้หมด” ทุกคนไม่ยอมบอกความจริง ได้ยื่นทรัพย์สินที่ติดตัวมาเพียงบางส่วนเท่านั้นให้โจรไปเมื่อหัวหน้ากองโจรได้เดินมาขอจากชายผู้นี้ชายผู้นี้บอกตามตรงว่า “มีเงินติดตัว

Page 28: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ซึ่งแม่ให้มา 40 ดีนาร” หลังจากยื่นให้ก็ถูกตรวจค้นเพิ่มเติม แต่ไม่พบว่ามีทรัพย์สินหรือของมีค่าอื่นใดอีก หัวหน้าโจรจึงได้ถามว่า “ทำไมท่านจึงสุจริตบอกตามตรง ไม่เหมือนผู้โดยสารรายอื่น ๆ” ก็ได้รับคำตอบว่า “แม่สั่งให้สุจริต ตรงไปตรงมาไม่โกหก” หัวหน้าโจรได้คิด จึงเลิกพฤติกรรมนั้น และสั่งให้ลูกน้องคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ผู้โดยสารทุกๆคน

Page 29: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เชิงความสุจริตธรรม

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ขอให้เราท่านทั้งหลายจงมีความยำเกรงอัลลอฮ์และมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อกันเถิด ความซื่อสัตย์เป็นหลักคุณธรรมประการหนึ่งที่ศาสนาอิสลามต้องการให้มุสลิมทุกคนต้องมีไว้เป็นคุณสมบัติประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการกระทำหรือแม้แต่การนึกคิด มุสลิมต้องพูดจริงทำจริง ไม่โกหกหลอกลวง ไม่บิดพลิ้วต่อสัญญา อิสลามได้เรียกร้องและเชิญชวนผ่านทางคำสอนจากอัลกุรอานและอัลหะดีษตลอดจนแบบฉบับของบรรพชนรุ่นก่อนที่ได้เคยปฏิบัติมา อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงกำชับให้มุสลิมมีอะมานะฮ์มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพใดก็ตามมุสลิมก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามหลักการศาสนาอย่างเคร่งครัด ทั้งต่อหน้าผู้คนและลับหลัง และไม่มีการทรยศต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะปฏิบัติต่อบุคคลในสังคมหรือในครอบครัว พร้อมกับให้ความยุติธรรมแก่ทุกคน บุคคลที่ปราศจากความซื่อสัตย์เป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางศาสนาและการศรัทธาอย่างยิ่ง อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงกล่าวไว้ใน (ซูเราะฮ์ อันนิซาอ์อายะฮ์ที่58)ว่า

Page 30: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความว่า : แท้จริงอัลลอฮ์ทรงใช้ให้พวกเจ้ามอบสิ่งที่ได้รับความไว้วางใจแก่เจ้าของสิทธิของมัน”ท่านพี่น้องที่เคารพ ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างในด้านความซื่อสัตย์สุจริตท่านได้รับสมญานามตั้งแต่วัยเยาว์ว่า “อัลอะมีน” แปลว่าผู้ซื่อสัตย์ แม้ชาวกุเรซมักกะห์จะไม่ศรัทธาต่อสิ่งที่ท่านนำมาบอก และตั้งตนเป็นศัตรูกับท่านแต่คนเหล่านั้นก็ยังนำสิ่งของไปฝากกับท่าน และยอมรับในความซื่อสัตย์สุจริตและความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวท่านมาโดยตลอด นักวิชาการได้แบ่งความซื่อสัตย์ตามหลักคำสอนของอิสลามได้4 ประการ คือ 1) ความซื่อสัตย์ต่ออัลลอฮ์ อันหมายถึงมีความศรัทธาอย่างบริสุทธิ์ใจและปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์สั่งใช้และออกห่างจากสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งห้าม 2) ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง หมายถึงการมีความเชื่อมั่นในตนเองไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ใฝ่ต่ำและไม่ประณามตนเองและผู้อื่น3)ความซื่อสัตย์ต่อสังคม หมายถึงการมีความซื่อสัตย์ต่อคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเพื่อนสนิทมิตรสหายหรือเพื่อนบ้านเพื่อนร่วมงานเป็นต้นและ4)ความซื่อสัตย์ต่อสิ่งแวดล้อม หมายถึงการดูแลรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้อยู่ในสภาพที่ดี ไม่ทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม อันจะทำให้เกิดอันตรายต่อตนเองและสังคมโดยรวมท่านพี่น้องที่เคารพ ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่เป็นเสมือนเครื่องค้ำจุนโลก การทรยศต่ออัลลอฮ์และร่อซู้ลของพระองค์ รวมถึงต่อหน้าที่ของตน ถือเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดและเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับ ผู้ศรัทธา ท่านร่อซู้ล ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะ

Page 31: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ซัลลัม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ไว้มาก ถึงกับนำไปเป็นเงื่อนไขด้านความสมบูรณ์ของการศรัทธาเลยทีเดียวท่านได้กล่าวเตือนไว้ว่า

ความว่า : “ถือว่าไม่มีความศรัทธา สำหรับผู้ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต และถือว่าไม่มีศาสนา สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา” (รายงานโดยอิหม่ามอะห์หมัด) มีเรื่องราวหนึ่งที่บอกเล่าผ่านอับดุลลอฮ์ บิน ดีนาร์ ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตของชายคนหนึ่งที่เป็นทาสรับใช้เจ้านาย ว่าครั้งหนึ่งที่ตนเองได้ออกเดินทางร่วมกับท่านคอลีฟะฮ์อุมัร์ บิน อัลค็อฏฏ็อบ ไปยังนครมักกะห์ ระหว่างที่แวะพักข้างทางก็ได้พบกับคนเลี้ยงแพะนำฝูงแพะกลับจากทุ่งหญ้าบนเขาพอดีท่านอุมัร์ได้กล่าวแก่คนเลี้ยงแพะว่า ท่านจะขายแพะแก่เราสักตัวได้ไหม?คนเลี้ยงแพะกล่าวว่า ฉันเป็นแค่ทาสคนหนึ่งไม่อาจขายให้ท่านได้หรอก ท่านอุมัร์จึงกล่าวเพื่อลองใจคนเลี้ยงแพะว่า ท่านก็บอกเจ้านายสิว่าแพะตัวหนึ่งถูกหมาป่ากิน คนเลี้ยงแพะมองหน้าท่านอุมัร์และกล่าวว่า แล้วฉันจะเอาอัลลอฮ์ไปไว้ตรงไหน? เท่านั้นแหละท่านคอลีฟะฮ์อุมัร์ถึงกับร่ำไห้ในความซื่อสัตย์ของทาสผู้นั้น และท่านก็ได้ไปหาเจ้านายของเขา ไถ่ตัวเขาออกมาพร้อมกับบอกกับคนที่เพิ่งได้รับอิสรภาพว่า “คำพูดของท่านปลดปล่อยท่านให้พ้นจากความเป็นทาสได้ในโลกนี้ ฉันหวังว่าคำพูดเดียวกันนี้จะปลดปล่อยท่านพ้นจากไฟนรก ในวันแห่งการตัดสินได้เช่นกัน” มีโองการจากอัลกุรอานอีกมากมายที่อัลลอฮ์ทรงกล่าวชื่นชมบรรดาผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต และทรงยืนยันว่าความซื่อสัตย์สุจริตจะอำนวยประโยชน์แก่พวกเขาในวันแห่งการตัดสิน แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ ในโลกดุนยานี้ แต่สวนสวรรค์และความสุขอันมากมาย คือ รางวัลตอบแทนพวกเขาและเหนือสิ่งอื่นใดคือการที่พวกเขาได้รับความพึงพอพระทัยจากพระองค์

Page 32: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ท่านพี่น้องที่เคารพ การมีความซื่อสัตย์เป็นหน้าที่จำเป็นของมุสลิมทุกคน ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นผู้ปกครองเป็นผู้อยู่ใต้การปกครองเป็นหัวหน้า เป็นลูกน้อง เป็นนายจ้างเป็นลูกจ้าง เป็นพ่อค้าแม่ค้า เป็นหญิงหรือชาย เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ล้วนต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตในทุกสิ่งที่ตนได้รับความไว้วางใจ และถือเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญที่สุด และผู้มีความซื่อสัตย์นั้นถือเป็นผู้มีเกียรติสูงส่งในสายตาของศาสนา มีเรื่องราวบอกกล่าวถึงความซื่อสัตย์สุจริตของหญิงสาวผู้หนึ่ง ในสมัยท่านคอลีฟะฮ์อุมัร์ บุตร อัลค็อฏฏ็อบ ที่กำลังรีดนมแพะอยู่กับแม่ของเธอในบ้านซึ่งบังเอิญท่านอุมัร์แอบได้ยินสองแม่ลูกสนทนากันขณะเดินออกตรวจตราความเรียบร้อยในนครมะดีนะห์ ผู้เป็นแม่ได้แนะนำให้ลูกสาวผสมน้ำลงไปในนมแพะเนื่องจากแพะให้นมน้อยอาจขายไม่ได้ราคาแต่ลูกสาวกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้หรอกเพราะท่านคอลีฟะฮ์อุมัร์ห้ามกระทำดังกล่าว ผู้เป็นแม่ก็กล่าวว่าโอ้ลูกรัก ไม่มีใครรู้เห็นเรื่องนี้หรอก ลูกสาวก็ตอบกลับไปว่า แต่พระเจ้าของคอลีฟะฮ์อุมัร์ทรงเห็นการกระทำของเรา ท่านอุมัร์รู้สึกประทับใจในความซื่อสัตย์ของหญิงสาวผู้นี้มาก ต่อมาท่านอุมัร์ได้นำลูกชายชื่ออาศิม มาสู่ขอหญิงสาวผู้นี้เป็นภรรยา และได้ให้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่งชื่อไลลา และไลลาผู้นี้ก็คือแม่ของท่านคอลีฟะฮ์อุมัร์บุตรอับดุลอาซีซ คอลีฟะฮ์ผู้ทรงธรรมลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์อุมาวีย์ในเวลาต่อมาท่านพี่น้องที่เคารพ มนุษย์ทุกคนถูกใช้ให้มีความซื่อสัตย์สุจริตในทุกภาระหน้าที่ที่ได้รับมาจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เป็นคำพูดหรือการกระทำ และจะทำไปเพื่อองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาหรือเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ตามเขาจำต้อง

Page 33: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

รักษาความซื่อสัตย์นี้ไว้ และจะบิดพลิ้วไม่ได้โดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพราะคุณธรรมดังกล่าวนี้เป็นสิ่งมีค่ายิ่งทางสังคม ทำให้คนในสังคมมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมีความรักความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ปัญหาความขัดแย้งและความหวาดระแวงก็จะไม่เกิดขึ้น และในที่สุดมนุษย์ทุกคนจะอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข

Page 34: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

การถือความสัตย์เป็นที่ตั้ง

พี่น้องผู้ศรัทธาที่รัก “จงยำเกรงอัลลอฮ์ด้วยการน้อมนำปฏิบัติตามพระบัญชาใช้อย่างสุดความสามารถและหลีกห่างจากสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงบัญญัติห้ามเอาไว้โดยสิ้นเชิง” มุสลิมที่ดี คือ ผู้ที่ตั้งในความสัตย์ รักในความซื่อตรงถึงพร้อมด้วยความสัตย์นั้นทั้งภายนอกและภายในทั้งวาจาและการประพฤติปฏิบัติ อันความสัตย์ซื่อนั้นย่อมนำทางสู่ความประพฤติชอบ และความประพฤติชอบย่อมนำทางสู่สรวงสวรรค์ และสรวงสวรรค์คือยอดปรารถนาของมุสลิมทุกคน การยึดเอาความสัตย์เป็นที่ตั้งมิใช่เป็นเพียงคุณธรรมอันประเสริฐที่มุสลิมจำต้องปฏิบัติเท่านั้น หากแต่ถือเป็นสิ่งเติมเต็มให้ศรัทธามีความสมบูรณ์อีกด้วย อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงบัญชาให้ผู้ศรัทธามีความสัตย์ซื่อ และพระองค์ทรงชื่มชมยกย่องผู้มีคุณลักษณะดังกล่าวในพระดำรัสที่ว่า:

ความว่า:“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และจงอยู่พร้อมกับเหล่าผู้มีความสัตย์ซื่อเถิด” (ซูเราะฮ์อัต-เตาบะฮ์อายะฮ์ที่119) และพระดำรัสที่ว่า:

ความว่า : “บรรดาบุรุษที่พวกเขามีความซื่อตรงต่อสิ่งที่พวกเขาได้ให้สัตยาบันเอาไว้กับอัลลอฮ์บนสิ่งนั้น”(ซูเราะฮ์อัล-อะห์ซาบอายะฮ์ที่23)

Page 35: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

การตั้งมั่นในความสัตย์และสุจริตธรรมมีผลในเชิงบวกหลายประการสำหรับผู้มีคุณธรรมอันประเสริฐประการนี้ เช่น มีความสงบทางใจ ไม่ฟุ้งซ่านไม่สับสนดังปรากฏในอัล-หะดีษว่า:

“ความซื่อสัตย์คือความสงบ” (รายงานโดยอัต-ติรมีซีย์) - มีความสิริมงคลและความเพิ่มพูนงอกงามในโภคทรัพย์ ข้อนี้สอดคล้องกับคำพูดที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” - ได้รับสถานภาพอันสูงส่งของบรรดาชะฮีดดังปรากฏในอัล-หะดีษว่า:

ความว่า : “ผู้ใดวิงวอนขอการเป็นชะฮีดต่ออัลลอฮ์ด้วยความสัตย์ อัลลอฮ์จักทรงให้ผู้นั้นบรรลุถึงบรรดาสถานภาพของเหล่าชะฮีด ถึงแม้ว่าผู้นั้น ได้สิ้นใจบนที่นอนของเขาก็ตาม” (รายงานโดยอัล-บุคอรีย์) - ได้รับความปลอดภัยและคลาดแคล้วจากสิ่งไม่ดีเป็นต้นท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย การแสดงคุณธรรมแห่งความสัตย์ซื่อให้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมในพฤติกรรมของเรานั้นสามารถกระทำได้หลากหลายดังในกรณีต่อไปนี้ 1.ความสัตย์ในวจีกรรม กล่าวคือ พูดจริง ไม่มุสาวาจา ไม่หลอกลวงไม่กลับกลอกกะล่อนปลิ้นปล้อน 2.ความสัตย์ซื่อในการทำธุรกรรมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนทั้งหลายกล่าวคือซื่อตรงไม่คดโกงไม่ทุจริตหรือคอรัปชั่น

Page 36: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

3.ความสัตย์ซื่อในเจตนา กล่าวคือ เมื่อตัดสินใจกระทำสิ่งใดที่ชอบตามหลักการของศาสนาแล้วก็ไม่ลังเล ไม่บิดพลิ้วหรือไม่พลัดวันประกันพรุ่งแต่มุ่งมั่นกระทำจนเสร็จสิ้น 4.ความสัตย์ซื่อในคำสัญญา ไม่บิดพลิ้ว ไม่ทรยศ คิดคดหรือผิดสัญญา 5. ความสัตย์ซื่อในสภาวะที่แสดงออก กล่าวคือ มีความจริงใจไม่เสแสร้งเป็นต้น สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่มุสลิมทุกคนต้องตระหนักและพากเพียรในการตรวจสอบหรือประเมินพฤติกรรมของตนก็คือ คำพูดที่เอื้อนเอ่ยต้องตรงกับพฤติกรรมที่แสดงออกภายนอก มุสลิมจะต้องไม่ประพฤติในสิ่งที่ขัดแย้งกับคำพูดของตน โดยเฉพาะมุสลิมที่เป็นผู้นำของสังคม ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในด้านศาสนา การเมือง การปกครอง หรือการศึกษาก็ตาม ตลอดจนผู้นำครอบครัวซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด คำพูดของผู้นำในทุกระดับล้วนแต่ส่งผลต่อตัวผู้พูดและผู้ตาม หากผู้นำเหล่านี้ขาดความซื่อสัตย์ในคำพูดและพฤติกรรมคือ พูดอย่างทำอย่าง ความน่าเชื่อถือย่อมสูญสิ้นไปในที่สุด สถานภาพของความเป็นผู้นำย่อมสั่นคลอนและเกิดข้อกังขา หากเป็นผู้นำทางศาสนาก็เรียกได้ว่าเป็นผู้รู้กำมะลอ เพราะได้แต่เที่ยวสั่งสอนผู้คน แต่ตนไม่นำพาเสียเองหากเป็นผู้นำทางการเมืองการปกครองก็เรียกได้ว่าเป็นนักปกครองที่หลอกลวงประชาชนเป็นนักการเมืองผู้มากด้วยเล่ห์เพทุบาย หากเป็นผู้นำครอบครัวก็เรียกได้ว่าเป็น“แม่พิมพ์ที่ชำรุด” จึงขอย้ำกับพี่น้องผู้ศรัทธาทุกท่านให้ตั้งอยู่ในสุจริตธรรมและความสัตย์ และหมั่นประเมินพฤติกรรมของเราให้สอดคล้องกับวจีกรรมที่เอื้อนเอ่ยอยู่เสมอ เพื่อท้ายที่สุดแล้วเราจักได้ชื่อว่า “อัศ-ศิดดีก” หรือ“สัตยวาทิน” ผู้พูดแต่ความจริงพระองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา

Page 37: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตธรรม

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮ์ ทรงสร้างมนุษย์ให้มีปัญญาอันชาญฉลาดสมบูรณ์พร้อมกว่าสรรพสัตว์ทั้งมวลที่พระองค์ทรงสร้าง แต่ในความเหนือกว่านี่เองที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงสร้างให้มนุษย์มีกิเลส มีตัณหา มีความหึงหวง มีความโกรธควบคู่ไปด้วยกัน และเมื่อมนุษย์คนใดดำเนินชีวิตของตนบนหนทางแห่งสุจริตธรรมมีวาจาสุจริต คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล มีใจสุจริต คือ ใจไม่โลภ ใจไม่โกรธ ใจไม่หลง มีกายสุจริต คือไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ประพฤติผิดประเวณี ไม่ลักเล็กขโมยน้อย นั่นคือทางรอดส่วนมนุษย์ผู้ใช้ชีวิตตามหนทางแห่งกิเลส ตามอารมณ์ เพื่อสนองตัณหาแห่งตนมนุษย์ผู้นั้นย่อมอยู่ในแนวทางแห่งนรกและการลงโทษ มันเป็นการสมควรเยี่ยงนี้แล้ว ถ้ามนุษย์ผู้นั้นเป็นพวกชอบเผลอเรอกับชีวิตของตนเอง ปล่อยตัวตามอารมณ์อาศัยการสนองตัณหา และการชักนำของชัยตอนมารร้ายเป็นที่ตั้งชอบฝ่าฝืนบทบัญญัติ ไม่สนใจใยดีต่อคำสั่งใช้ให้ทำอิบาดัต คนประเภทนี้แม้ได้ชื่อว่าเป็นมุสลิม แต่นานวันเข้ามันจะยิ่งเข้ารกเข้าพง ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ไม่เห็นแม้กระทั่งสุเหร่า และท้ายที่สุดของคนพวกนี้อาจจะไม่รู้จักแม้กระทั่งพระเจ้าของตัวเองด้วยซ้ำ เมื่อไม่รู้จักพระเจ้า ต่อมาก็ไม่เชื่อในการลงโทษของพระองค์ และเมื่อใดที่คนเราหากไม่เชื่อในการลงโทษของอัลลอฮ์

Page 38: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

เมื่อนั้นอะไรก็ทำได้ กว่าจะนึกได้อีกที ก็ต่อเมื่อตนเองไปอยู่ ณ เบื้องหน้าของอัลลอฮ์ในวันสอบสวน ตอนนั้นอยากกลับตัวกลับใจ อยากแม้กระทั่งการกลับมามีชีวิตใหม่บนหน้าโลกดุนยา เพื่อจะแก้ไขปรับปรุงตนเอง แต่มันไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงดำรัสไว้ใน (ซูเราะฮ์ อัล-มุอ์มินูน อายะฮ์ที่99-100)ว่า

ความว่า “จวบจนเมื่อความตายได้มาประสบกับคนหนึ่งในหมู่พวกเขา เขาก็จะกล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ขอพระองค์ได้ทรงให้ข้ากลับไปมีชีวิตใหม่เถิด เพื่อข้าพระองค์จะได้ประกอบกรรมดี ที่ได้ปล่อยปละละเลยไว้” พี่น้องทั้งหลาย รากฐานที่นับว่าสำคัญของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือ รากฐานด้านจิตใจ อันได้แก่ ความหนักแน่น สุจริตธรรม และความจริงใจ ดังนั้นรูปลักษณ์ที่สวยงามภายนอกของมนุษย์ ไม่มีความสำคัญเท่ากับความสวยงามที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน เพราะความสวยงามของเรือนร่างไม่ใช่สิ่งที่จีรังยั่งยืนไม่วันใดวันหนึ่งในภายภาคหน้าความสวยงามย่อมสูญหายไป แต่จิตใจที่สุจริตและความประพฤติที่ดีงาม คือ สิ่งที่ยั่งยืน มนุษย์ที่มีสุจริตธรรม คือ ผู้ที่แสดงออกสอดคล้องตรงกับสิ่งที่อยู่ในหัวใจ ไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง หรือทำอย่างใจอย่างนี่คือสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เพราะสังคมที่เราดำรงอยู่ทุกวันนี้ สอนให้ดำเนินไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับหลักการดังกล่าว สังคมกำลังสอนให้ขยันเพื่อเอาใจเจ้านาย สอนให้ทำดีเพื่อคำสรรเสริญเยินยอ สอนให้บริจาคเพื่อเกียรติยศและชื่อเสียง และเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ และในที่สุดการกระทำที่มันไม่ได้ก่อเกิดขึ้นมาจากใจ เสมือนว่าทำไปโดยถูกบังคับ ทำไปแบบเสียไม่ได้ทำเพียงให้พ้นไปวันๆและที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือสิ่งที่มันอยู่ในใจสำคัญกว่า

Page 39: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

การกระทำที่เผยให้เห็น และยังเป็นสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจะทรงพิจารณาว่าคนไหนดีคนไหนเลวดังที่ท่านศาสดามูฮำหมัดทรงกล่าวว่า

แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่มองยังร่างกายและรูปพรรณของพวกท่านแต่พระองค์จะมองไปยังหัวใจของพวกท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ผู้สุจริตธรรมต้องปฏิบัติตนด้วยความจริงใจ เมื่อมีการปฏิบัติสิ่งใดต้องกระทำอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ฉวยโอกาสเมื่อใกล้เงิน ไม่หลงไหลเมื่อใกล้อิสตรี ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ยึดมั่นถือมั่นวัตถุ ไม่ยึดถือเอาความรวยเป็นที่ตั้ง และผู้สุจริตธรรมต้องไม่ลืมว่า วัตถุก็ดี ความร่ำรวยก็ดีเหล่านี้คือเปลือก คือรูปลักษณ์ภายนอก มันไม่ใช่แก่น มันไม่ใช่ตัวที่จะสร้างสังคม เมื่อเทียบดูกับต้นไม้ ถ้าเราเอามีดไปฟันลำต้น ไปฟันเปลือก ไปฟันใบต้นไม้มันไม่ตาย ต้นไม้ยังอยู่ได้ บางครั้งแตกกิ่งแตกใบใหม่เพิ่มขึ้นอีก แต่ถ้าเราลองไปขุดราก ไปฟันเหง้ามันขึ้นมา ต้นไม้อยู่ไม่ได้ คนก็เหมือนต้นไม้ หูหนวกตาบอดแขนขาดคนอยู่ได้แต่ถ้าหากหัวใจตายใจไม่มีศาสนาคนเราก็อยู่ไม่ได้ใจคอมันร้อนรุ่ม ระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อยากทำอะไรก็ทำ ผิดลูกผิดเมียก็ทำเหล้าก็กิน ไพ่ก็เล่น เมื่อมนุษย์ขาดสุจริตธรรม สังคมก็จะเสื่อมเสีย ดังนั้นวัตถุไม่ได้เป็นตัวสร้างมนุษย์ ศาสนาเท่านั้นที่เป็นตัวสร้างมนุษย์และสังคมมนุษย์ให้มีจริยธรรมคุณธรรมให้มีคุณค่าตลอดมา สิ่งที่ศาสนาต้องการคือความสุขที่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ศาสนาใช้ ออกห่างจากสิ่งที่ศาสนาห้าม และที่สำคัญที่การกระทำนั้นจะต้องมีที่มาจากใจที่บริสุทธิ์ดังที่ศาสดาทรงกล่าวว่า

Page 40: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความว่า “บรรดาการกระทำนั้นขึ้นอยู่กับเจตนา และสำหรับทุกคนนั้น จะได้รับในสิ่งที่เขา นิยะฮ์ตั้งเจตนา” นบีมูฮำหมัดได้ชี้ให้เห็นในหะดีษบทนี้ว่า ใจคือตัวการสำคัญที่จะทำให้การกระทำบรรลุผล จะดี จะชั่ว จะถูก จะผิด ศาสนาให้มองที่ใจเป็นหลัก ไม่ใช่มองที่การกระทำหรืออาการที่แสดงออก ดังนั้นคนที่ใจรั่ว คนที่การกระทำกับใจไม่ตรงกัน ปากอย่างใจอย่าง การกระทำของเขาย่อมไม่ได้มรรคไม่ได้ผลถ้าเปรียบไปก็เป็นเหมือนถังน้ำที่ก้นมันรั่ว ให้ใส่น้ำเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม จะเอามาใช้ประโยชน์อะไรก็ไม่ได้ ยิ่งตักน้ำใส่ก็ยิ่งเสียแรงเปล่า มีไว้เก็บไว้ก็รังแต่จะรกและเป็นภาระแก่ตัวเจ้าของด้วยซ้ำ พี่น้องที่เคารพ เราทุกคนต่างก็รู้และเข้าใจดีว่า โลกดุนยานี้หาใช่สถานที่พำนักอันจีรังถาวรข้อนี้คงไม่มีใครปฏิเสธและทั้งๆที่รู้ว่าดุนยาไม่ถาวรแต่เราก็ยึดติดกับมัน เรายึดติดกับเกียรติ ยึดติดกับชื่อเสียง และความสุขฉาบฉวยที่ดุนยาสร้างขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับเกียรติยศและความสุขที่อัลลอฮ์สัญญาไว้ และการที่โลกดุนยาเป็นโลกชั่วคราว ไม่จีรัง จึงทำให้นบีมูฮำหมัดเปรียบเทียบไว้ดังที่ อิบนุอุมัร กล่าวว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์ได้จับที่บ่าของฉันแล้วกล่าวว่า“ท่านจงอยู่ในโลกนี้เหมือนคนแปลกหน้าหรือผู้เดินทาง” (รายงานโดยอัล-บุคคอรีย์)

Page 41: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตวาจา (สุจริตธรรม)

ท่านผู้ศรัทธาที่เคารพ พระองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาพร้อมกับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายที่มีความสมบูรณ์ถือเป็นความโปรดปราณอันยิ่งใหญ่ซึ่งในแต่ละอวัยวะต่างก็มีความสำคัญ เช่น ลิ้น พระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้างลิ้นมนุษย์ขึ้นมาเพื่อได้อ่านอัลกุรอาน กล่าวซิกรุ้ลลอฮ์ กล่าวสดุดี สอนมนุษย์ให้เข้าใจหลักธรรมคำสอนของศาสนาอิสลาม ดังนั้นพี่น้อง ผู้ศรัทธาต้องระมัดระวังการใช้ลิ้นให้มากถ้าหากไม่มีการระมัดระวังการใช้ลิ้นอาจทำให้เกิดความหายนะสำหรับผู้พูดเองและจะต้องเสียใจไปตลอดโดยไม่สามารถจะเรียกคืนได้ ดังจะเห็นตัวอย่างจากสังคมปัจจุบันที่มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อคำพูดของเขาพูดไปโดยขาดสติพูดไปโดยขาดสัจจะวาจาขาดซึ่งสุจริตธรรมจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตนเองทำให้ขาดความน่าเชื่อถือและในที่สุดก็ส่งผลไปสู่สังคม ทำให้ตนเองขาดการยอมรับจากสังคม อีกทั้งจะทำให้สังคมเกิดความเสียหายด้วย ดังนั้นขอให้ผู้ศรัทธาได้ใช้ความระมัดระวังในการใช้วาจาให้มาก ก่อนจะพูดอะไรออกไปแต่ละคำต้องไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนว่าควรจะพูดประโยคใดจึงจะมีความเหมาะสมและต้องเป็นคำพูดที่ เป็นสัจจะวาจาเป็นประโยคที่ไพเราะน่าฟัง ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงสอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในอัลกุรอานว่า

Page 42: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความว่า “และจงระลึกถึงขณะที่เราได้เอาคำมั่นสัญญาจากวงศ์วาน อิสรออีลว่า พวกเจ้าจะต้องไม่เคารพสักการะสิ่งใดนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และจงทำดีต่อบิดามารดา ญาติใกล้ชิด เด็กกำพร้า และผู้ขัดสน และจงพูดจา แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยคำพูดที่สวยงาม และจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด และ จงบริจาคซะกาต แต่แล้วพวกเจ้าก็ได้ผินหลังให้นอกจากเพียงเล็กน้อยในหมู่ พวกเจ้าเท่านั้นและพวกเจ้าก็กำลังผินหลังให้อยู่”(ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์อายะฮ์ที่83) จากอายะฮ์ดังกล่าวพระองค์อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้สอนมวลมนุษย์ให้ได้รับทราบถึงหลักเตาฮีดหลักสัจธรรมและหลักปฏิบัติกล่าวคือให้มนุษย์นมัสการพระองค์อัลลอฮ์องค์เดียว สอนให้ปฏิบัติคุณงามความดีต่อบิดามารดา ปฏิบัติดีต่อญาติใกล้ชิด เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนจนคนขัดสน และพระองค์ทรงสอนให้มนุษย์รู้จักวิธีการพูดคุย วิธีการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนมนุษย์ต้องมีการกล่าวถ้อยคำที่สวยงามซึ่งหมายถึงถ้อยคำที่เป็นสัจจะวาจา มีสุจริตวาจา มีความไพเราะ อ่อนน้อมนิ่มนวลโดยไม่พูดจาที่โกหก บิดพลิ้วหรือในลักษณะกุข่าวขึ้นมาจนทำให้ข้อมูลข่าวสารมีความคลาดเคลื่อนซึ่งลักษณะเช่นนี้เป็นลักษณะของมุนาฟิกซึ่งเป็นลักษณะอันไม่พึงประสงค์ซึ่งท่าน นบีมูฮำหมัดศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สอนให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ให้มากคือให้ระวังการพูดจาที่มีการบิดพลิ้ว มีการโกหก ดังนั้นผู้ปกครอง ผู้บริหาร ผู้นำในทุกระดับต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวให้มากโดยต้องให้ความสำคัญทางด้านสุจริตธรรมทั้งทางด้านกิริยาวาจาและจิตใจโดยต้องเป็นแบบอย่างที่ดี

Page 43: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ให้กับผู้ที่อยู่รอบข้างและสังคมโดยรวม เพราะคำพูดถือเป็นอาวุธที่สำคัญของมนุษย์ ถ้าใช้อาวุธอย่างถูกต้องถูกวิธีคำพูดนั้นก็จะทรงคุณค่าแก่ผู้พูดอย่างมหาศาล จะได้รับผลบุญจากพระองค์อัลลอฮ์จะได้รับการตอบแทนอย่างคุ้มค่าซึ่งการมีสัจจะวาจา สุจริตวาจา ถือเป็นหลักจริยธรรม คุณธรรมที่นับว่ามีความสำคัญประการหนึ่งเพราะเป็นลักษณะ (ซิฟัต) ของท่านนบีมูฮำหมัดศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งมุสลิมทุกคนต้องน้อมนำแบบอย่างของท่านนบีมาใช้ในชีวิตประจำวันมาใช้ในการบริหารจัดการ อีกทั้งต้องนำมาเผยแผ่อีกด้วยแต่ในขณะเดียวกันถ้าหากผู้ใดใช้ถ้อยคำที่โกหก บิดพลิ้ว ซึ่งเป็นลักษณะของมุนาฟิก (ผู้กลับกลอก) เพียงครั้งเดียวก็ตามความหายนะจะติดตัวอยู่กับเขาตลอดไป จะทำให้เขาเสียศักดิ์ศรี เสียชื่อเสียง ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่มีใครอยากจะอยู่ร่วมเคียงข้างด้วย สังคมจะรังเกียจแม้จะมีความรู้หรือมีความมั่งคั่งมีทรัพย์สมบัติสักเพียงใดก็ตาม ดังนั้นจึงขอให้ผู้ศรัทธาจงระมัดระวัง และหลีกห่างจากคำพูดที่โกหก หยาบคาย เกี่ยวกับเรื่องนี้พระองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า

ความว่า แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์นั้นได้กุความเท็จขึ้นและชนเหล่านั้นคือผู้กล่าวเท็จ(ซูเราะฮ์อัลนะห์ลุอายะฮ์ที่105) อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสไว้ใน (ซูเราะฮ์ อัลฮัซร์ อายะฮ์ที่ 10)ว่า

Page 44: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความว่า เจ้ามิเห็นดอกหรือว่า บรรดาผู้กลับกลอกกล่าวแก่พี่น้องของพวกเขาที่ปฏิเสธศรัทธาในหมู่ของชาวคัมภีร์ว่า หากพวกท่านถูกไล่ออกแน่นอนเราก็จะออกไปพร้อมกับพวกท่านด้วย และเราจะไม่เชื่อฟังปฏิบัติตามผู้ใดเป็นอันขาดเกี่ยวกับพวกท่านและหากพวกท่านถูกโจมตีแน่นอนเราจะช่วยเหลือพวกท่านและอัลลอฮ์ทรงเป็นพยานว่าแท้จริงพวกเขาเป็นผู้กล่าวเท็จ (ซูเราะฮ์อัลฮัซร์อายะฮ์ที่11) จากโองการดังกล่าว พระองค์อัลลอฮ์ ได้กล่าวถึงลักษณะของเหล่าชนผู้กลับกลอก (มุนาฟิก) ซึ่งเป็นการแสดงความประหลาดแก่สภาพของพวกมุนาฟิกีน คือพวกเขาได้กล่าวแก่พวกยะฮูดบะนีกุรอยเซาะห์และบะนีอันนะฏีรซึ่งได้ปฏิเสธศรัทธาต่อศาสน์ของมูฮำหมัดว่า หากพวกท่านถูกไล่ออกจากนครมะดีนะห์พวกเราก็จะออกไปกับพวกท่านด้วย พวกเราจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของมูฮำหมัดในการสู้รบกับพวกท่าน และหากผู้ใดเข้าไปโจมตีพวกท่าน เราก็จะช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างพวกท่านเพื่อต่อสู้กับศัตรูของพวกท่านและอัลลอฮ์ทรงเป็นพยานว่าพวกมุนาฟิกีนนั้นเป็นผู้กล่าวเท็จในสิ่งที่พวกเขาได้กล่าวและให้สัญญากับพวกเขา ท่านผู้มีศรัทธาที่เคารพ ขอให้เรามาช่วยกันสร้างสังคมพัฒนาคนในสังคมให้มีคุณธรรมเพราะคุณธรรมเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ในท้องตลาดไม่มีขายในห้างสรรพสินค้า หากแต่จะต้องได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ต้องเป็นแม่พิมพ์เป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกหลานเยาวชนให้การปลูกฝังวัฒนธรรมที่ดีงามตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเริ่มฝึกพูดขอให้เริ่มด้วยประโยคที่ดีงาม ประโยคที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมอิสลาม สอนให้กล่าวบิสมิ้ลลาฮ์ อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์ อัลลอฮุอักบัร รวมทั้งประโยคที่เป็นคำขอบคุณหรือประโยคใด ๆ ที่เป็นคำสุภาพและเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย จะทำให้เด็กคนนั้นเป็นคนมีอุปนิสัยอ่อนน้อมอ่อนโยนไม่แข็งกร้าวหรือแข็งกระด้างประการสำคัญ

Page 45: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

พ่อแม่ผู้ปกครองต้องระมัดระวังอย่าให้เด็กได้ยินได้ฟังได้เห็นการทะเลาะวิวาทหรือพฤติกรรมใด ๆ ของคนรอบข้างหรือคนในสังคมที่แสดงออกถึงการใช้วาจาที่ไม่สุภาพ การใช้วาจาที่ก้าวร้าว วาจาที่เบี่ยงเบนจากข้อเท็จจริงเพราะปัญหาสังคมในปัจจุบันนี้ต้นเหตุของปัญหาคือการบริโภคสื่อ หากแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารที่สื่อนำมาเสนอผิดเพี้ยน บิดเบือนจากข้อเท็จจริงขาดความรับผิดชอบ จะส่งผลให้เกิดวิกฤติทางสังคมทันที ดังนั้นผู้ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจะต้องมีลักษณะที่มีสัจจะวาจา มีความสุจริตธรรมซึ่งข้อมูลที่จะนำเสนอนั้น หรือข่าวสารที่จะนำเสนอนั้นต้องเป็นความจริงสามารถตรวจสอบได้ผู้นำเสนอต้องมีความรับผิดชอบมีแหล่งที่มาที่ชัดเจน แม้กระทั่งการพูดคุยกันเพียงสองคนหรือพูดคุยในวงเล็ก ๆ ก็ตามจะต้องพูดแต่ความจริงเท่านั้น และห้ามนำเรื่องที่ ไม่ดีของคนอื่นมาพูดคุย ท่านนบีศอลลัลลอฮุอะลลัยฮิวะซัลลัม กล่าว่า “แท้จริงการมีสัจจะวาจาจะเป็นทางนำไปสู่ความดี และแท้จริงความดีนั้นจะนำไปสู่สวรรค์” ท่านผู้ศรัทธาที่เคารพมีผู้คนหลายต่อหลายคนที่ต้องเสียใจเพราะคำพูดของเขาเองจะด้วยความเจตนาหรือไม่ก็ตาม บางคนถึงขั้นถูกศาลพิพากษาให้ถูกปรับ บางรายถูกจำคุก ในขณะที่บางรายถูกพิพากษาทั้งจำและปรับ เพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำนั่นคือการพิพากษาในโลกดุนยานี้เท่านั้นแต่การลงอาญาของอัลลอฮ์ในหลุมฝังศพหรือในอาลัมบัรซักและในวันกิยามะห์มันยิ่งใหญ่นัก สำหรับผู้ที่ใช้วาจาผิดวิธี ทำให้ผู้อื่นเสียหายเสียศักดิ์ศรี ในที่สุดตนเองก็จะได้รับการตอบแทนในสิ่งที่ได้กระทำไป จึงขอให้พี่น้องผู้ศรัทธาทุกท่านได้ตระหนักและมีการระมัดระวังในการใช้ลิ้นให้มากโดยการใช้ถ้อยคำที่เป็นสัจจะวาจาสุจริตวาจาและต้องมีความรับผิดชอบต่อคำพูดทุกคำทุกประโยคที่ได้พูดออกไป ซึ่งถ้อยคำที่ดีมีความไพเราะย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำทานได้ด้วยดังนั้นการพูดจาที่ดีจะทำใด้เกิดความสง่างามกับตนเอง เกิดความน่าเชื่อถือ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากใช้

Page 46: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

โอกาสต่างๆไปอบรมสั่งสอนเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการศาสนาอิสลามเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่สังคม ย่อมถือว่าเป็นการใช้ลิ้นใช้ถ้อยคำที่คุ้มค่าหรือไม่มีโอกาสได้สอนผู้อื่น สมควรอย่างยิ่งที่จะใช้เวลาว่างทำการอ่านอัลกุรอานกล่าวซิกรุ้ลลอฮ์ อินซาอัลลอฮ์พระองค์ อัลลอฮ์จะตอบแทนความดีแก่เขาเพราะท่านนบีศอลลอลลอฮุอะละยฮิวะซัลลัมสอนว่า การกล่าว ซุบฮานั้นลออฮ์เป็นประโยคที่เบาลิ้น(คือกล่าวได้ง่าย)แต่จะทำให้ตราชั่งแห่งความดีมีความหนักหมายถึงพระองค์อัลลอฮ์จะตอบแทนคุณงามความดีกับผู้กล่าวสดุดีต่อพระองค์อย่างมหาศาล ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องผู้ศรัทธาจงได้ตระหนักด้านการใช้วาจาไปในทางที่ถูกต้อง ต้องเป็นถ้อยคำที่มีสัจธรรม สุจริตธรรม เพื่อจะให้เกิดความสง่างามแก่ตนเอง คนในสังคมก็จะได้รับแต่ความสุข ประเทศชาติจะเกิดความรุ่งเรืองประการสำคัญจะได้รับการตอบแทนจากพระองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาโดยได้รับความสุขทั้งดุนยาและอาคิเราะห์

Page 47: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

คุณลักษณะมุสลิมด้านสุจริตธรรม

ศรัทธาชนที่รักทั้งหลาย อัลฮัมดุลิ้ลล่าฮ์การสรรเสริญทั้งมวลเป็นเอกสิทธิ์แห่งอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลและจักรวาล จงยำเกรงต่ออัลลอฮ์เถิดเพราะการยำเกรงจะเป็นเสบียงที่ดีในโลกนี้ และโลกหน้า ขอให้เราใช้ชีวิตตามแนวทางและครรลองอิสลามในทุกมิติ ทั้งด้านอิบาดะฮ์และมุอามะลาต(สังคม)โดยใช้อัลกุรอานและซุนนะห์เป็นบรรทัดฐาน เงื่อนใขที่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตอบรับการงานของเรา คือการทำงานด้วยความสุจริตใจ มีเป้าหมายเพื่อแสวงความโปรดปรานจากพระองค์โดยไม่มีวาระซ่อนเร้น ซ่อนเงื่อน หรือต้องการให้ผู้อื่นสรรเสริญเยินยอความสุจริตใจเป็นเรื่องที่มุสลิมต้องมีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเราทำภารกิจใด ๆหรือประกอบอาชีพอะไร ดังคำกล่าวที่ว่า หาเงินให้ถูกต้อง และใช้เงินให้มีประสิทธิภาพ ใครที่มีความสุจริตจะไม่แสดงออกด้วยความเสแสร้ง ไม่เป็นหน้าไว้หลังหลอกตีสองหน้าเจ้าเล่ห์พยาบาท ในทางศาสนาเรียกความสุจริตนี้ว่า อิคลาศ หมายความว่า สะอาดบริสุทธิ์ หรือมีใจบริสุทธิ์ ไม่ปะปนกับสิ่งอื่น ในที่นี้หมายถึง หากเราต้องการทำอิบาดะฮ์(ประกอบศาสนกิจ)เราต้องตั้งเจตนาอันแน่วแน่เพื่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาและหวังผลตอบแทนความดีงามจากพระองค์เท่านั้น ส่วนผลที่ตามมา

Page 48: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ภายหลังไม่ว่าทรัพย์สิน เงินทอง คำชมเชย และชื่อเสียง เป็นผลพลอยได้ไม่ใช่เป้าหมาย สิ่งที่ควรระวังในคำสรรเสริญ คือ ความลืมตัว และเคยชินกับคำเยินยอ จนกลายเป็นผู้ยโสโอหัง ซึ่งเป็นพฤติกรรมของชัยตอนมารร้ายอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงตรัสว่า

ความว่า : “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์”(ซูเราะฮ์อัลบัยยินะฮ์อายะฮ์ที่5)พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย เมื่อผู้ใดมีความสุจริตใจเป็นตัวตั้ง เขาก็จะมีความบริสุทธิ์ใจต่อทุกคนหัวใจไม่คิดทำลายผู้ใดไม่ว่าจะเป็นผู้นำหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเขาไม่คิดร้ายต่อใคร แม้มีการคิดร้ายต่อเขา เขาก็ไม่คิดที่ตอบแทนการคิดร้ายนั้น เขาพร้อมที่จะให้อภัยอยู่ตลอดเวลา ความสุจริตในหน้าที่ถึงแม้ว่าจะมีรายได้น้อย หรือได้รับผลตอบแทนน้อยแต่การใช้ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความศิริมงคลในขณะที่การทุจริตในหน้าที่การงาน มีโอกาสแสวงหารายได้ ตักตวงผลประโยชน์และสร้างฐานะได้อย่างมั่นคง ร่ำรวยอย่างรวดเร็ว แต่บั้นปลายของชีวิตอาจพบกับความวุ่นวาย โดยไม่คาดคิดก็ได้ ผู้ใช้ชีวิตแบบสุจริต จะพบกับความผาสุกสุขกายสบายใจส่วนผู้ทุจริตอาจได้ครอบครองสิ่งที่ต้องการแต่ยิ่งนานวันก็เกิดความทุกข์ทางใจดังที่ท่านนบีมูฮำหมัดศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวว่า

ความว่า : “แท้จริงการงานทั้งหลาย (ขึ้นอยู่) กับการตั้งเจตนา และสำหรับทุกคนจะได้รับ (ผลตอบแทน) ตามที่เขาได้เจตนาไว้” รายงานโดยท่านอิหม่ามบุคอรีและมุสลิม

Page 49: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ศรัทธาชนที่รัก ความบริสุทธิ์และความสุจริตใจนั้นเป็นการศรัทธาแขนงหนึ่ง การศรัทธาที่เกิดจากใจ คือหลักความเชื่อและเจตนาต่าง ๆ อันประกอบด้วยการศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาและศาสนทูตของพระองค์ การศรัทธาในสิ่งเร้นลับต่าง ๆ ความรักต่ออัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ การปฏิบัติศาสนกิจด้วยความบริสุทธิ์ใจ การกลับเนื้อกลับตัวตลอดทั้งการขอบคุณในพระมหากรุณาธิคุณที่พวกเราได้รับจากพระองค์อันมากมาย เป็นต้น สิ่งที่จะมาเสริมความสุจริตให้เข้มแข็งก็คือความซื่อสัตย์พูดจริงทำจริงไม่ตลบตะแลงการรักษาคำพูดนั้นเป็นป้อมปราการที่จะป้องกันตัวเองจากการล่อลวงของชัยตอน มารร้าย และจิตใจที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ในขณะเดียวกันการพูดเท็จ การไม่รักษาคำพูดก็จะนำไปสู่ความไม่สมประกอบของจิตใจ ท่านนบีมูฮำหมัด ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กำชับเรื่องนี้ไว้ว่า

ความว่า : “แท้จริงความซื่อสัตย์จะนำไปสู่ความดี และความดีจะนำพาไปสู่สรวงสวรรค์” รายงานโดยท่านอิหม่ามบุคอรีและมุสลิมพี่น้องที่รักทั้งหลาย ความบริสุทธิ์หรือความสุจริตใจในการประกอบศาสนกิจ สิ่งที่ควรระวังก็ควรอย่าผสมผสานกันระหว่างความบริสุทธิ์ใจกับเจตนาอื่นแฝง หรือมีวาระซ่อนเร้นหมกเม็ดดังตัวอย่าง - ผู้ที่แสวงหาความรู้นั้นไม่ต้องการความรู้ เพราะเป็นหน้าที่ที่อัลลอฮ์ได้บัญชา แต่ต้องการจะได้ทำงานที่มีเกียรติ มีเงินเดือนสูง ปรารถนาให้ผู้คนยกย่องสรรเสริญ

Page 50: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

- ผู้ที่ละหมาด ไม่ใช่ทำเพื่ออัลลอฮ์ทรงใช้ แต่ทำเพื่อการบริหาร และโอ้อวดให้ผู้อื่นเห็นว่าเป็นผู้เคร่งครัดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือธุรกิจ - ผู้ที่ถือศีลอดไม่ใช่เพื่อหวังผลตอบแทนจากอัลลอฮ์ และความศรัทธาแต่เพื่อต้องการลดความอ้วนเพื่อสุขภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย - ผู้ที่จ่ายซะกาตหรือบริจาคทาน มิใช่เพื่อสนองตอบพระบัญชาแต่เพื่อต้องการได้หน้าได้ตาและให้ผู้อื่นสรรเสริญเยินยอว่าเป็นคนใจบุญสุนทาน - ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ มิใช่เพื่ออัลลอฮ์ แต่เพื่อไปทำธุรกิจทางการค้าหรือท่องเที่ยว - ผู้ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลแม่หม้ายและเด็กกำพร้าไม่ใช่เพื่อต้องการความโปรดปรานจากอัลลอฮ์แต่หวังจะได้แม่ม้ายหรือเด็กกำพร้าเป็นภรรยา จากตัวอย่างข้างต้น พอสรุปได้ว่า คุณค่าของงานไม่ได้อยู่ที่จำนวนมากหรือน้อยแต่คุณค่าที่แท้จริงของการทำงานอยู่ที่การตั้งเจตนาอันบริสุทธิ์นั่นเองศรัทธาชนที่รัก ความดีทุกประเภทที่ส่งผลทั้งในโลกนี้และโลกหน้าต้องกำหนดโดยอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง การปฏิบัติธรรมทุกชนิดจำเป็นต้องอาศัยความบริสุทธิ์ ใจหรือสุจริตเป็นแกนหลัก และจะต้องไม่มุ่งหวังผลตอบแทนจากผู้ใด นอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น ดังท่านนบีมูฮำหมัด ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้แนะนำว่า

ความว่า : “แท้จริงอัลลอฮ์ จะไม่พิจารณาที่เรือนร่าง และรูปร่างของท่านทั้งหลาย แต่ทรงพิจารณาภายในจิตใจของท่านทั้งหลาย” (การประพฤติของพวกท่าน)รายงานโดยท่านอิหม่ามมุสลิม

Page 51: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

พี่น้องทุกท่าน คุณธรรมที่เกี่ยวข้องกับสุจริตธรรม หรือความบริสุทธิ์ใจนั้น ไม่เฉพาะแต่ศาสนกิจที่เป็นอิบาดะฮ์เท่านั้น หากแต่การดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมการประกอบอาชีพ การดำเนินธุรกิจ ก็จำเป็นต้องอาศัยความบริสุทธิ์ใจเช่นกันประการสำคัญ ความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่อัลลอฮ์ทรงตอบรับการงานของเราด้วย

Page 52: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“การใช้ทรัพย์สินอย่างสุจริตธรรม”

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่รักและเคารพทั้งหลาย ส่วนหนึ่งจากคุณลักษณะและพระนามของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลานั้นคือแปลว่าผู้ทรงสร้างทุกสิ่งและ แปลว่าผู้ทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งมุสลิมทุกคนจำเป็นจะต้องศรัทธาว่า อัลลอฮ์ทรงเป็นผู้สร้างทุกสิ่งและอัลลอฮ์ทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่ง จักรวาลทั้งหมดรวมทั้งมนุษย์คือสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงสร้างขึ้นมาและพระองค์เป็นผู้ทรงกรรมสิทธิ์อย่างแท้จริงดังที่อัลลอฮ์ได้ทรงตรัสว่า:

ความว่า : “และเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองและสิ่งที่อยู่ใต้ผืนดิน” (ซูเราะฮ์ฏอฮาอายะฮ์ที่6) สำหรับกรรมสิทธิ์ของมนุษย์ในทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มนุษย์ครอบครองนั้นอิสลามไม่ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง เป็นเพียงของฝาก (อะมานะฮ์)ที่อัลลอฮ์

Page 53: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

มอบให้แก่มนุษย์และให้มนุษย์มีอำนาจในกรรมสิทธิ์นั้น ๆชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นดังนั้นมนุษย์จึงต้องตระหนักในสองด้านคือ: หนึ่ง:ตระหนักในวิธีการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ซึ่งต้องได้มาโดยสุจริตธรรม สอง :ตระหนักในวิธีการใช้กรรมสิทธิ์และต้องใช้จ่ายด้วยความสุจริตธรรมเช่นกัน หมายความว่าวิธีการได้มาซึ่งทรัพย์สิน และการใช้ทรัพย์สินนั้นจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดต่าง ๆ ที่อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงวางไว้เท่านั้นการละเมิดข้อกำหนดของอัลลอฮ์ เช่น การคดโกง การกินดอกเบี้ย การพนันและการใช้จ่ายทรัพย์สินไปในทางของความชั่ว ถือเป็นบาปอันมหันต์ที่มนุษย์จะต้องได้รับโทษจากอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาได้ทรงกำหนดให้ทรัพย์สินเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ดังที่อัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ว่า:

ความว่า : “และจงอย่าให้แก่บรรดาผู้โง่เขลาซึ่งทรัพย์สินของพวกเจ้า ซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงให้มันเป็นเครื่องดำรงชีวิตแก่พวกเจ้า”(ซูเราะฮ์อันนิซาอ์อายะฮ์ที่5) ในขณะเดียวกันอัลลอฮ์ก็ ได้บอกเราว่ าทรัพย์สินนั้น เป็นเพียงเครื่องประดับของโลกนี้เท่านั้นดังที่อัลลอฮ์ได้ตรัสว่า:

ความว่า : “อันทรัพย์สินและลูกหลานนั้นเป็นเพียงเครื่องประดับ ของชีวิตในโลกนี้เท่านั้นแต่ผลกรรมอันอมตะที่ดีงามทั้งมวลย่อมประเสริฐกว่า ณ องค์พระผู้อภิบาลของเจ้าในการตอบแทน และประเสริฐกว่าในการใฝ่หา” (ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิอายะฮ์ที่46)

Page 54: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

จากอัลกุรอานทั้งสามอายะฮ์ข้างต้นพอสรุปเป็นหลักคำสอนได้ดังนี้คือ: หนึ่ง : ทรัพย์สินทั้งมวลนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ ของอัลลอฮ์โดยแท้จริงมนุษย์เป็นเพียงผู้รับอะมานะห์จากอัลลอฮ์ ในการครอบครอง และเขาจะต้องรับผิดชอบและถูกสอบสวนในสิ่งที่เขาครอบครอง สอง : ทรัพย์สินเป็นปัจจัยของชีวิตมิใช่เป้าหมายของชีวิต การเอาทรัพย์สินมาเป็นเป้าหมายของชีวิตเท่ากับการตกเป็นทาสของทรัพย์สินโดยปริยาย และการตกเป็นทาสของทรัพย์สินก็เท่ากับตกอยู่ในหนทางแห่งความหายนะดังที่ท่านนบีได้กล่าวว่า:

ความว่า : ความหายนะได้ประสบกับผู้ตกเป็นทาสของทอง และผู้ตกเป็นทาสของเงินเมื่อมีคนให้เขาก็พอใจและเมื่อไม่มีคนให้เขาก็โกรธ สาม : ทรัพย์สินเป็นเพียงเครื่องประดับของชีวิตในโลกนี้เท่านั้นไม่มีแก่นสารและไม่มีความจีรังยั่งยืน เราจึงไม่ควรหลงใหลหรือยึดติดกับมันแต่ควรใช้มันไปในวิถีทางของอัลลอฮ์ และต้องคำนึงถึงความสุจริตธรรมเป็นสำคัญเพื่อให้บังเกิดผลเป็นอะมัลที่ศอและห์ ยังประโยชน์แก่ผู้ที่ครอบครองทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะห์

Page 55: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“สุจริตธรรมและความอดทน เป็นส่วนหนึ่งของความยำเกรง”

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพ ขอให้เราท่านทั้งหลายจงมีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อกันเถิด อีกทั้งต้องมีการอดทน อดกลั้น เพื่อได้รับชัยชนะ พระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า

“เรา หมายถึง อัลลอฮ์ จะทดสอบพวกเจ้าให้เผชิญกับความหวาดกลัว ให้เผชิญกับความหิว ให้ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่หมดไปหรือน้อยลง ให้สุขภาพ ไม่สมบูรณ์ มีเจ็บไข้ได้ป่วย ให้พืชผลได้รับความเสียหาย (โดยที่การทดสอบอันนี้ จะไม่มีอะไรคุ้มกันนอกจากมีความอดทนและมีสติ ดังนั้นนบีแห่งข้าฯ) จงแจ้งข่าวดีแก่พวกเขาผู้มีความอดทนและมีสติ ผู้ซึ่งที่เมื่อได้ประสบเคราะห์กรรมแล้ว พวกเขาจะกล่าวว่า (พวกเรานั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ แล้วเราก็ต้องกลับไปหาพระองค์) พวกเขานั้นจะได้รับพรอันประเสริฐ จะได้รับความเมตตาจากพระเจ้า เพราะพวกเขาเหล่านั้น เป็นกลุ่มชนที่มีหลักยึด และอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง” ท่านพี่น้องที่เคารพ...ในชีวิตความเป็นอยู่ของเราท่านในแต่ละวันนั้นย่อมมีความเครียด มีความกดดัน มีอารมณ์ที่ไม่เป็นปกติอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยท่านออกไปทำมาหากิน ออกไปทำงาน เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางต้องยืน

Page 56: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

รอรถนาน ๆ และเมื่อขึ้นรถได้แล้วบางวันรถก็ติดอยู่บนท้องถนนเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็ให้เกิดความเครียดความกดดันดังนั้นจึงต้องมีการอดทนให้มากและต้องมีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ให้มาก ในโอกาสที่ท่านต้องอยู่ในสังคมท่านต้องคบค้าสมาคมกับผู้อื่น ก็ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง สังคมมีการแก่งแย่งกัน โอ้อวดกัน อิจฉาริษยากันถือดีต่อกันมันก็เป็นความเครียดความกดดันอีกเช่นกัน ในครอบครัวบางครอบครัว อาจมีคนเจ็บคนป่วย มีการสูญเสีย เช่นการสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง หรือเสียชีวิต ในขณะเดียวกันต้องมีค่าใช้จ่ายรายวันรายเดือนเช่นค่าน้ำค่าไฟแล้วอีกหลายๆอย่างที่รุมเร้าเข้ามามันก็เป็นความเครียดเป็นความกดดันจึงต้องใช้ความอดทน สรุปแล้ว จะอย่างไรสภาพใดและณที่ใดก็ตาม ในชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราในแต่ละวันนั้นย่อมพบกับความกดดันที่เราท่านจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านพี่น้องที่รัก สิ่งที่เราจะต่อสู้กับความเครียด ความกดดันเหล่านี้ได้นั้น ก็คือ การซอบัร การอดทนอดกลั้นและมีสติ แล้วก็ต้องกระทำตนให้อยู่ในความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ด้วย แล้วนั่นแหละชีวิตของเราก็จะไปรอดมีทางออกไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่เสียผู้เสียคน ไม่คิดมาก ไม่ฟุ้งซ่าน และจะทำให้จิตใจของเราสงบนิ่ง ชีวิตของเราเป็นของอัลลอฮ์จึงต้องมอบหมายต่ออัลลอฮ์ในทุกกิจการงาน และในความซอบัร อดทนอดกลั้นของเรานั้น ถือเป็นเรื่องของการสักการะในองค์อภิบาลโดยแท้ ซึ่งในเรื่องนี้นั้น ย่อมมีผลบุญตอบสนองมากมาย ท่านร่อซู้ลศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวในเรื่องนี้ไว้ว่า

ความว่า“เมื่ออัลลอฮ์รักและภูมิใจบ่าวคนหนึ่ง อัลลอฮ์ก็จะทดสอบบ่าวผู้นั้น (ให้ได้รับเคราะห์กรรมความเดือดร้อน สูญเสีย ผิดหวัง หรืออะไรก็ตาม)

Page 57: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

เมื่อบ่าวคนนั้นมีความซอบัร อดทน ก็จะได้รับการหลีกเลี่ยงหรือหลุดพ้น และ เมื่อยินยอม-ยอมรับในชะตากรรม ในเคราะห์กรรมนั้น ย่อมจะได้ชื่อว่าเป็นบ่าว ที่ซื่อสัตย์” เราจะต้องรักษาการอีหม่าน การศรัทธาของเราไว้ให้จงดี ขณะเกิดความกลัว หรือความหวาดผวา จะต้องสงบนิ่ง เมื่อเกิดความเศร้าสลดเกิดความเสียใจ จะต้องไม่เอะอะโวยวาย ไม่โทษโน่นโทษนี่ ในส่วนที่เราได้ดีมีบารอกะห์ ก็อย่าได้ทะนงตน ให้ขอบคุณต่อพระเจ้า อย่าได้ถือตนเป็นที่ตั้งในส่วนที่เป็นความไม่ดี เป็นเคราะห์กรรมโชคร้าย ก็ต้องอดทนอดกลั้น และต้องมีการวิงวอนขอต่อพระองค์เพราะพระองค์นั้นคือที่พึ่งของเรา อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงกล่าวแก่ร่อซู้ล เพื่อนำมาชี้แจงแก่บุคคลทั่วไปว่า

ความว่า “ศาสนทูตแห่งข้าฯ จงกล่าวแก่พวกเขาเถิดว่า อันความดี ความชั่วนั้น จะไม่ประสบพบกับเรา เว้นแต่กอดัร พรหมลิขิต หรือกำหนด การล่วงหน้าของอัลลอฮ์ ที่กำหนดไว้ให้ พระองค์เจ้าเท่านั้น ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปกครองเราในทุกเรื่อง ในทุกกิจการ และในทุกสภาพการณ์ ดังนั้น มุมินผู้ศรัทธาในพระเจ้าทั้งหลาย จงมอบหมายและยึดมั่นในอัลลอฮ์” (ซูเราะฮ์อัต-เตาบะฮ์อายะฮ์ที่51) ท่านพี่น้องที่เคารพ...ในความซอบัรอดทนของเรานั้น ถ้าจะพูดให้สั้นสักนิดหนึ่งก็คือ ต้องซอบัร อดทนอดกลั้นในเรื่องที่ไม่ดี ในเรื่องที่มีความกดดันให้เกิดเป็นความดี ให้เกิดเป็นความถูกต้อง พร้อมกับต้องกระทำตนให้อยู่ในการตักวาในการยำเกรงอัลลอฮ์ด้วยแล้วนั้นแหละการซอบัรของเราจึงจะมีผลไปในทางที่ดี พี่น้องที่เคารพครับ...คนเราเมื่อเป็นคนดีของสังคมเป็นผู้มีสุจริตธรรมใครก็อยากจะคบหาสมาคมด้วยอยากจะช่วยเหลือ และเมื่อมีโอกาสมีงาน

Page 58: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

มีการก็อยากจะหยิบยื่นให้ทำมีช่องทางก็อยากจะบอกอยากจะกล่าวมีอุปสรรคเดือดร้อนก็มักจะได้รับการช่วยเหลือ พี่น้องที่เคารพ...การทำความดี มีคุณธรรม มีจริยธรรมของคน ๆ หนึ่งนั่นแหละคือการตักวาเพราะฉะนั้นถ้าเรามีความซอบัรมีการตักวาชีวิตของเราก็จะไม่อับเฉา ไม่ตกต่ำ แต่กลับจะทำให้ชีวิตมีความสุข มีเกียรติ มีฐานะจะเป็นชีวิตที่มีความสำเร็จในที่สุด อัลลอฮ์ทรงให้คำมั่นสัญญาแก่เราไว้ใน (ซูเราะฮ์ อัตตอลาก อายะฮ์ที่2-3)ว่า

ความว่า “และผู้ใดยำเกรงต่ออัลลอฮ์ (พยายามกระทำตน อดทน ตั้งตนอยู่ในความดี อยู่ในศีลในธรรม อยู่ในจริยธรรม อยู่ในจารีตประเพณี อันดีงาม) อัลลอฮ์จะให้เขาผู้นั้นพบทางออก (พบช่องทางในอันที่จะทำให้ชีวิต ของเขาหลุดพ้นจากความยากจนและทุกข์ยาก)”

“และจะให้เขาได้รับริสกี โดยที่เขาไม่คาดคิด (ไม่คิดว่าจะได้ก็ได้)”

“ผู้ใดมอบหมายตนต่ออัลลอฮ์ (ทำให้ดีที่สุดในทุกกิจการ แล้วก็ มอบหมายต่อพระองค์) ก็เป็นการเพียงพอแล้ว”

“อัลลอฮ์นั้นทรงบรรลุแล้วในจุดประสงค์และเป้าหมาย ในการบริหารงานของพระองค์”

Page 59: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“อัลลอฮ์ทรงให้ทุกสิ่ง (เป็นไปตามกาลเวลา) เป็นไปตามชะตากรรม(เป็นไปตามโชคนำแห่งชีวิต)” พี่น้องที่รัก...คนเราถ้าเป็นคนดี มีความอดทน อยู่ที่ไหนใครก็อ้าแขนรับเรื่องจะอดตายหรือไม่มีงานทำนั้นย่อมไม่มี เพราะฉะนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายได้ตระหนักถึงความอดทนให้มาก เป็นผู้นำ ผู้บริหาร เป็นอิหม่าม เป็นคณะกรรมการ ก็ต้องถูกตำหนิติเตียนบ้างเป็นธรรมดา เป็นครูบาอาจารย์ ให้การอบรมสั่งสอนผู้อื่น เกิดไปทำผิดพลาด ก็ต้องถูกตำหนิถูกโจทย์ขานก็ต้องมีความอดทน สรุปแล้วในทุกเรื่องเราต้องมีความซอบัรอดทนและฐานะของการซอบัรนั้นคือ หน่วยหนึ่งของการอีหม่านมีผู้ถามท่านร่อซู้ล ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมถึงเรื่องการอีหม่านท่านตอบว่าการอดทนและอดกลั้นนั่นแหละคือการอีหม่าน พี่น้องที่รัก...ในตัวของท่าน ในภาระหน้าที่ของท่าน ในสังคมของท่านในการกระทำของท่าน ในการทำความดีของท่าน ในการละความชั่วของท่านในการประพฤติตัวของท่าน ในเคราะห์กรรมของท่านนั้น จักต้องมีความซอบัรอดทนและอดกลั้น ในความอดทนอดกลั้นในสิ่งเหล่านั้น ถือเป็นหน้าที่ของท่าน และในหน้าที่ของท่านเหล่านี้นั้นถือเป็นเรื่องของการสักการะต่อพระผู้อภิบาลทั้งสิ้นจึงขอให้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาอิสลามจงเป็นผู้มีสุจริตธรรมจงใช้ความอดทนให้มากประการสำคัญต้องตั้งมั่นอยู่ในความตักวา ความยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮ์อยู่เสมอ เพื่อได้รับชัยชนะทั้งดุนยาและอาคิเราะห์

Page 60: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

การละหมาดด้วยความสุจริตธรรม คือยอดแห่งอิบาดะห์

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพ การละหมาดถือเป็นอิบาดะห์ที่สำคัญที่สุด เป็นเสาของศาสนา มุสลิมผู้ยำเกรงอัลลอฮ์นั้นจะต้องดำรงไว้ซึ่งการละหมาดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์มีความสุจริตธรรมพระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า

ความว่า “(โอ้นบีแห่งข้าฯ) จงปฏิบัติละหมาดทั้งในช่วงแรกและ ช่วงสุดท้ายของกลางวัน และทั้งช่วงเวลาที่แยกกำหนดไว้ในช่วงกลางคืน แท้จริงความดีนั้นจะลบล้างความชั่ว การสั่งใช้ให้เจ้าปฏิบัติดังกล่าวนั้น เป็นคำสอน เป็นคำแนะนำแก่ผู้มีความระลึกได้ในพระผู้เป็นเจ้า” (ซูเราะฮ์ฮูดอายะฮ์ที่114) อีกอายะฮ์หนึ่งพระองค์ทรงกล่าวไว้ว่า

ความว่า “(โอ้นบีแห่งข้าฯ) จงอ่านคัมภีร์ของอัลลอฮ์ให้ถูกต้องตาม กฎเกณฑ์ และจงปฏิบัติละหมาด (ให้ครบถ้วนสมบูรณ์) เพราะการละหมาด (ด้วยจิตใจสำรวมและบริสุทธิ์) นั้น จะทำให้ผู้ปฏิบัติหยุดการประพฤติชั่ว หันเหออกจากสิ่งที่เป็นบาป ออกจากสิ่งที่ไม่ชอบด้วยหลักการของศาสนาในที่สุด” (ซูเราะฮ์อัลอังกะบูตอายะฮ์ที่45)

Page 61: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

และการระลึกได้ในอัลลอฮ์ ในการตักวาอัลลอฮ์จะยังผลดีให้ผู้ปฏิบัติให้คุณค่า ให้ผลบุญอย่างมากมี อัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเจ้าได้ปฏิบัติกันทั้งในความดีและความชั่วทั้งสิ่งที่ทำให้โดยเปิดเผยและแอบทำ พี่น้องมุสลีมีนที่เคารพรัก...เราเป็นมุสลิมต้องปฏิบัติละหมาดให้ครบเพราะการละหมาดถือเป็นรากฐานประการแรก เป็นประการสำคัญในด้านการปฏิบัติตนขั้นสูงสุด ในการดำรงไว้ซึ่งศาสนา และแสดงออกซึ่งความเป็นมุสลิมของเรา เราพูดกันว่า ถ้าคนหนึ่งไม่ละหมาดเลย ในคุณงามความดี ในภาระหน้าที่ที่เป็นกิจวัตรประจำวันณ ที่พระเจ้า ในวันอาคีเราะห์โน้น จะไม่มีผลอานิสงส์คุณค่า ผลบุญตอบสนองให้อย่างแน่นอน นั่นก็เพราะว่าการคิดคุณค่าผลบุญตอบสนองให้นั้น เริ่มด้วยการละหมาดซึ่งถือเป็นบรรทัดฐาน เป็นอันดับสองรองจากคำสัตย์ปฏิญาณ เรียกว่าต้องละหมาด เป็นการปฏิบัติการสักการะยืนยันในคำสัตย์ปฏิญาณของเราต่อการเป็นเจ้าของพระเจ้า เป็นการน้อมรับในศาสนาที่พระองค์มอบให้ไว้ เป็นแนวทางปฏิบัติเสียก่อน แล้วในการประกอบกิจการงานในด้านอื่นๆก็จะมีผลตามมา การละหมาดนั้นจะห้ามจากความชั่วและความผิด จะทำให้ผู้ปฏิบัติหยุดการประพฤติชั่วหยุดกระทำในสิ่งที่เป็นภัยในที่สุด พี่น้องที่เคารพรัก...ในอายะฮ์ที่กล่าวมาข้างต้น บอกให้เรารู้ว่าในส่วนหนึ่งนั้น คนเราชอบปฏิบัติชั่ว ประพฤติผิดต่อจารีตประเพณีและศีลธรรมในสิ่งผิดพลาดเหล่านี้ เราขจัดออกได้ถ้าเราละหมาด เพราะการละหมาดนั้น คือการขัดเกลาจิตใจและทำให้มีวินัย จิตของเราจะสะอาด กริยามารยาทจะงดงามความประพฤติจะดี มีศักดิ์มีศรี มีบารมี ก็ต่อเมื่อเป็นบุคคลที่ได้ผ่านแล้วซึ่งการขัดเกลาจิตใจ และการขัดเกลาที่เรากำลังพูดถึงนี้ ในอิสลามก็คือการละหมาด การเข้าสู่พิธีกรรมในการสักการะต่อพระผู้เป็นเจ้า และการละหมาด

Page 62: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ที่ให้ผลไปในด้านของการขัดเกลาจิตใจ จะต้องเป็นการละหมาดที่ถูกต้อง เป็นไปตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดแล้วก็ต้องเป็นละหมาดที่ปฏิบัติไปด้วยความสำรวมมีสมาธิมีอากัปกิริยาท่าทางที่เป็นพิธีการแสดงออกซึ่งการคารวะน้อบน้อมและถ่อมตน เป็นละหมาดที่ตั้งความรู้สึกมุ่งไปสู่พระเจ้า ด้วยจิตที่แน่วแน่และจริงใจเหมือนกับว่าท่านหยุดยืนต่อหน้าพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้า ต้องทำจิตให้ว่างจิตกับร่างต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน และต้องรู้ต้องสำนึกด้วยว่า ที่พระเจ้ามีบัญญัติให้เราละหมาดนั้นเพื่ออะไร?มีจุดมุ่งหมายไปในทางไหน? ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ได้กล่าวว่า

ความว่า : อัลลอฮ์จะไม่พิจารณาการละหมาด ที่ชายคนหนึ่งเข้าสู่การละหมาดโดยจิตกับร่างไม่สัมพันธ์กัน ครับท่านที่รัก...การละหมาดที่จะหักห้ามความชั่ว ละหมาดที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติหยุดการทำชั่วได้นั้นต้องเป็นละหมาดที่มีสมาธิละหมาดด้วยความตั้งใจและต้องรู้ต้องมีจิตสำนึกด้วยว่า เป้าหมายหรือจุดประสงค์ของการที่พระเจ้าบัญญัติใช้ให้ละหมาดนั้นคืออะไร? ท่านพี่น้องที่เคารพ พระเจ้าใช้ให้เราละหมาด ในจุดแรกก็เพื่ออัลลอฮ์เพราะพระองค์เป็นพระเจ้า เป็นที่พึ่งของเรา เราก็ต้องสักการะพระองค์ ยำเกรงในพระองค์ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือเพื่อให้เราเป็นคนดีมีจริยธรรมมีคุณธรรมมีจิตใจสะอาดงดงามจะทำอะไรก็ให้นึกถึงพระองค์จะคบค้าสมาคมจะทำธุรกิจกับใครก็ให้นึกถึงพระองค์ ให้นึกถึงความถูกต้อง ให้นึกถึงบทบัญญัติห้ามและใช้ของพระองค์เป็นที่ตั้ง คนเราเมื่อจิตอยู่กับพระเจ้า จะทำอะไรก็ต้องตามบทบัญญัติของพระเจ้า คนที่เดินตามบทบัญญัติใช้ของพระเจ้า จะปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้กระนั้นหรือ?

Page 63: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

เพราะฉะนั้นท่านที่รัก ที่เราท่านละหมาดกันอย่างครบถ้วน 5 เวลาไม่เคยขาดนั้นมันเป็นเรื่องดีเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตความเป็นมุสลิมของเรา แต่ถ้าจะให้ดีมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มจุดประสงค์และเป้าหมายของละหมาดเข้าไว้ในจิตใจของท่านด้วย “เรียกว่าละหมาดแล้วให้ได้จิตสำนึก” สำนึกในจริยธรรมสำนึกในคุณธรรมสำนึกในคำสั่งสอนของศาสนาสำนึกในความเป็นมุสลิม นั่นแหละครับ...จึงจะเป็นละหมาดที่สมบูรณ์ เป็นละหมาดที่ให้ผลให้ผู้ปฏิบัติหยุดและเลิกกระทำชั่วในที่สุด พี่น้องที่เคารพ กลับมาในแวดวงสังคมของเราท่านบ้าง หลายคนละหมาดแต่ก็ไม่ทำให้จิตใจสะอาดหลายคนละหมาดแต่ไม่ทำให้ความประพฤติดีขึ้น หลายคนถามว่า แล้วละหมาดไปทำไม? ได้อะไรขึ้นมา และละหมาดนั้นจะหักห้ามความชั่วได้จริงหรือ? ครับแน่นอน ละหมาดนั้นย่อมขัดเกลาจิต และหักห้ามความชั่วได้จริงถ้าละหมาดนั้นเป็นละหมาดที่ถูกต้องมีสมาธิมีจิตสำรวมมีจิตมุ่งมั่นและมีความสุจริตธรรม และต้องเป็นละหมาดที่เกิดขึ้นจากการยำเกรงในพระเจ้าเป็นละหมาดที่ได้มาซึ่งจิตสำนึกในจริยธรรมและคุณธรรม แต่ถ้าละหมาดแบบขอไปที ละหมาดโดยไม่มีจิตสำนึก ขาดจุดประสงค์และเป้าหมายละหมาดเพราะต้องละหมาด การละหมาดของเขาก็เป็นเพียงการก้ม ๆ เงย ๆ เท่านั้น ย่อมจะไม่ให้ผลอะไร กลับจะเป็นสิ่งด่างพร้อยให้กับตัวเองและสังคม คนเขาจะพูดว่า “อุตส่าห์ไว้ใจนึกว่าเป็นคนดี เห็นละหมาด ไม่ขาด” ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ได้ถูกถามถึงเรื่องราวของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอถือบวชในตอนกลางวัน ละหมาดในตอนกลางคืน และในขณะเดียวกันเธอก็ทำร้ายเพื่อนบ้านด้วยลิ้นของเธอ โดยการนินทาผู้อื่น เหน็บแนม มุสา อิจฉาตาร้อนชอบปั้นน้ำเป็นตัว ชอบที่จะเห็นผู้อื่นมีทุกข์แล้วตัวเองจะมีความสุข ท่านร่อซูลุ้ลลอฮ์ตอบว่าเธอผู้นั้นไม่มีความดีอะไรเลยเธอเป็นชาวนรก

Page 64: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ในหะดีษนี้บอกให้เรารู้ว่า ในเรื่องของบทบัญญัติที่ใช้ให้เราท่านปฏิบัติไม่ใช่เฉพาะแต่เรื่องละหมาด จะเป็นบทบัญญัติข้อไหนก็ตาม ถ้าเราท่านทำโดยปราศจากจิตสำนึกและเป้าหมายในบทบัญญัตินั้นก็มักจะไม่ได้ผลอะไร จงอย่าละหมาดเพราะว่าเป็นมุสลิมต้องละหมาด เห็นเขาละหมาดกันเราก็ละหมาดด้วย ละหมาดไปด้วยความเคยชิน โดยไม่รู้ว่าละหมาดเพื่ออะไร?เป้าหมายไปในทางไหน? จงอย่าละหมาดเพื่อให้คนเขารู้ว่าเรานั้นเคร่งละหมาดไม่ขาด แล้วก็เที่ยวอวดอ้างสรรพคุณตนเอง จงอย่าละหมาดแล้วดึงเอาละหมาดมาแอบอ้างให้ตกต่ำอย่างเช่นพูดว่าฉันจะทำอย่างนั้นไปทำไมฉันจะพูดอย่างนั้นทำไม ฉันไม่เคยทำ ฉันไม่เคยพูด ฉันละหมาดไม่ขาด...จงละหมาดเพราะว่าละหมาดเป็นบทบัญญัติ เป็นหน้าที่ เป็นฟัรดูที่เราท่านผู้เป็นมุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติ จะขาดไม่ได้ พร้อมกับในละหมาดนั้น จะต้องให้ได้มาซึ่งจิตสำนึกสำนึกได้ในจริยธรรมคำสั่งสอนของศาสนา นั่นแหละจึงเป็นละหมาดที่ถูกต้องเป็นละหมาดที่ขัดเกลาจิตใจ และหักห้ามความชั่ว ความไม่ดีในที่สุด พระองค์อัลลอฮ์ได้ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

ความว่า : อันความดีนั้นจะลบล้างความชั่ว การสั่งใช้ให้ปฏิบัติเป็นคำสั่งสอนแก่ผู้มีความระลึกได้ในพระผู้เป็นเจ้า เป็นข้อแนะนำ เป็นจริยธรรมคำสั่งสอนที่มาจากพระองค์ (ซูเราะฮ์ ฮูด อายะฮ์ที่ 114) ขอให้ผู้ศรัทธาจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาดด้วยความสุจริตธรรม และได้ดำเนินชีวิตตามหลักธรรม คำสอนของศาสนาอิสลามเพื่อได้รับความสุขและมีชัยทั้งโลกนี้และโลกหน้า

Page 65: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

สุจริตธรรม นำสังคมสู่สันติภาพ

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพ มนุษย์ทุกคนต้องมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งต้องรับผิดชอบตนเอง รับผิดชอบสังคมและประเทศชาติ ความรับผิดชอบเป็นส่วนหนึ่งของความยำเกรงพร้อมกันนี้ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบด้วยความสุจริตธรรม พระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า

ความว่า “เมื่อพระผู้เป็นเจ้าของท่าน กล่าวแก่บรรดามลาอิกะฮ์ว่า เราจะแต่งตั้งตัวแทนให้ปกครองโลก บรรดามลาอิกะฮ์ก็กล่าวคัดค้านว่า ท่านจะทำให้ผู้หนึ่งทำความเสียหาย ทำลายล้าง และประหัตประหารกันอยู่บนโลก อย่างนั้นหรือ? เรา (หมายถึงมลาอิกะฮ์) เป็นผู้ที่ยกย่อง และสรรเสริญพระองค์ (ไม่เคยทำให้พระองค์มัวหมอง) อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาจึงกล่าวตอบว่า เรารู้ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้” (เรารู้ว่าใครเหมาะสมที่จะปกครองโลก) (ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์อายะฮ์ที่30)ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทั้งหลาย ในความเป็นอยู่ของเราท่านนั้น จะนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหวต้องดิ้นรนต่อสู้ ต้องทำมาหากิน ต้องแสวงหาปัจจัยในการดำรงชีพ นั่นก็คือ

Page 66: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ทรัพย์สมบัติเงินตราสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคและอีกหลายๆอย่างที่จำเป็นแก่ชีวิตนั่นเป็นทางหนึ่งในด้านวัตถุ อีกทางหนึ่งทางด้านจิตใจแล้วก็ต้องมีศีลธรรมมีจริยธรรมสุจริตธรรมและต้องมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันรับผิดชอบในสัดส่วนของสังคมและกลุ่มชนร่วมกัน แล้วชีวิตของเราก็จะมีความสุข ไม่ถูกตำหนิติเตียน มีแต่คำสรรเสริญเยินยอมีแต่สันติภาพจนทำให้เกิดความสมานฉันท์ ท่านพี่น้องที่เคารพ เกียรติศักดิ์ศรีบารมีการให้ความนับถือความรักความอบอุ่น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราจะหาซื้อได้ด้วยเงินตรา หากแต่เราได้มันมาด้วยคุณธรรม ด้วยความดี ด้วยการอุปถัมภ์ค้ำจุนกัน มอบสิ่งที่ดี ๆ ให้แก่กัน ไม่ใช่ทำลายล้างสังคมหรือทำสังคมไปสู่ความวิบัติ หลายคนประกอบสัมมาชีพด้วยความสุจริต ขยันทำมาหากิน แล้วก็มีความสุขแม้จะเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างหลายคนมีรายได้ไม่เป็นกอบเป็นกำไม่พอกินพอใช้ แต่ก็มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความอดออม อดทน อยู่ด้วยความยากลำบากแต่ก็มีสติไม่ทำความเสื่อมเสียมาสู่สังคมและประเทศชาติ ท่านพี่น้องที่เคารพ...การรักษาความดี มีตักวาต่ออัลลอฮ์นั้น จะทำให้ชีวิตดีขึ้นเองอัลลอฮ์ทรงตรัสไว้ใน(ซูเราะฮ์อัตตอลากอายะฮ์ที่2-3)ว่า

ความว่า “ผู้ใดยำเกรงต่ออัลลอฮ์ (ยึดปฏิบัติตามห้ามตามใช้) พระองค์จะให้ผู้นั้นพบทางออก (พบช่องทางที่จะทำให้ชีวิตของเขาหลุดพ้นจากความ ทุกข์ยาก)”

“และอัลลอฮ์จะให้เขาได้รับริสกีโดยที่เขาไม่คาดคิด (ไม่คิดว่าจะได้ ก็ได้)”

Page 67: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“ผู้ใดมอบหมายตนต่ออัลลอฮ์ในทุกกิจการ (ทำให้ดีที่สุด) ก็เป็นการเพียงพอแล้ว”

“แท้จริงอัลลอฮ์ทรงบรรลุแล้วในจุดประสงค์และเป้าหมาย (ในกิจการงานในการบริหารงานของพระองค์)”

“อัลลอฮ์ทรงให้ทุกสิ่ง เป็นไปตามชะตากรรม (เป็นไปตามโชคนำชีวิต)” ท่านพี่น้องที่เคารพอีกหลายคนมีรายได้ค่อนข้างดีมีความสุขแต่ก็เป็นความสุขที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นรายได้ที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เป็นรายได้ที่ทำลายล้าง คร่าชีวิตผู้อื่น ยัดเยียดความตายให้ผู้อื่น โดยตายแบบผ่อนส่งตายทั้งอนาคตและชีวิตโดยการประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย มนุษย์ทุกคนเป็นทรัพยากรของโลกและประเทศชาติที่มีคุณค่า เป็นขวัญและกำลังใจของพ่อแม่ เป็นกำลังสำคัญของสังคมและประเทศชาติ แต่ก็ต้องมาถูกทำลายล้างโดยภัยมืดที่แฝงอยู่ในสังคม เรากำลังพูดถึงอาชีพหนึ่งที่แฝงอยู่ในเงามืดของสังคม เป็นอาชีพที่น่ารังเกียจ เป็นอาชีพที่โลกสาปแช่ง เป็นอาชีพที่ทำความวิบัติมาสู่เด็กและเยาวชนที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มหันตภัยยาเสพติดทำลายชีวิตทำลายสังคมเพราะฉะนั้นอย่าเข้าใกล้อย่าใช้เป็นเส้นทางทำมาหากิน มันเป็นบาป เป็นการกระทำของคนใจบาปเป็นอาชญากรที่ไร้มนุษยธรรม ที่อยู่ในรูปแบบของการทำลายล้างและคร่าชีวิตของผู้อื่น ซึ่งก็เป็นญาติพี่น้องและบุคคลที่อยู่ในสังคม แม้จะไม่ตายในทันทีทันใดแต่มันก็ตายแบบผ่อนส่ง ซึ่งก็ถือว่าโหดร้ายและทรมานยิ่งกว่าตายโดยปัจจุบันทันด่วนเสียอีก

Page 68: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

โทษของการฆ่าผู้อื่นตาย โทษของการทำลายชีวิต ถือเป็นบาปใหญ่ตกนรกเพียงสถานเดียวฉันใด มหันตภัยยาเสพติด ทำลายชีวิต ทำลายสังคมก็ฉันนั้นเช่นกัน อัลลอฮ์ทรงตรัสไว้ใน(ซูเราะฮ์อันนิซาอ์อายะฮ์ที่93)ไว้ว่า

ความว่า “ผู้ใดทำลายชีวิตหนึ่งที่เป็นมุอ์มินโดยเจตนา โทษของเขาก็คือนรกยะฮันนัม ต้องตกอยู่ในขุมนรกนั้นตลอดไป (อันเนื่องมาจากการกระทำ ความผิดที่ร้ายแรง) เป็นความผิดที่ทำให้อัลลอฮ์โกรธ และตัดออกจาก ความเมตตา (เขาจะไม่ได้รับในสิ่งที่ดี ๆ ในชีวิต) อัลลอฮ์ได้เตรียมการลงโทษสถานหนักไว้ให้แล้ว (นั่นก็คือขุมนรกยะฮันนัมเพียงสถานเดียวเท่านั้น)” เกี่ยวกับเรื่องนี้มีนักวิชาการบางท่านกล่าวว่า การทำความเสื่อมเสียทำความวิบัติอยู่บนหน้าโลกนี้ และไม่อาจที่จะเตาบัตตัวได้ ไม่ควรที่จะได้รับการผ่อนปรนใดๆมันบาปเกินกว่าที่จะให้อภัย เพราะฉะนั้น ท่านที่รัก โปรดอย่าได้เข้าใกล้ยาเสพติด อย่าคิดเสพอย่าคิดจำหน่าย มันเป็นมหันตภัยทำลายล้าง คนเสพตาย คนจำหน่ายติดคุกสุขไม่มีมีแต่ความมืดมนโลกประนามและสาปแช่ง ท่านพี่น้องที่รัก โลกยังมีการเปลี่ยนแปลง สภาพแวดล้อมผันผวนวัฏจักรของโลกยังต้องมีการเสื่อมและสูญสลาย มนุษย์ยังต้องประสบกับชะตากรรมเกิดแก่เจ็บตาย ดีใจและโศกเศร้าที่พำนักพักพิงของเราในโลกดุนยานี้ไม่มีอะไรยั่งยืน ไม่มีอะไรถาวร ทุกสิ่งย่อมมีการเสื่อมสลายและดับสูญไปตามกาลเวลา ไปตามคุณลักษณะของมัน อย่างนี้แล้วความสุขในชีวิตของเราจะมีหรือ?

Page 69: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ในซูเราะฮ์ อัลมุลกุ อายะฮ์ที่ 1 และ 2 บอกถึงสภาพหนึ่ง บอกถึงฐานะหนึ่งที่มนุษย์อย่างเราท่าน ต้องดำรงชีพอยู่ในโลก ต้องทำอะไร? และต้องรับผิดชอบอะไร?

“เอกองค์อัลลอฮ์ ผู้ทรงควบคุมอำนาจการปกครอง ผู้ทรงเดชานุภาพ และกำหนดสภาวการณ์”

“พระองค์ผู้ทรงให้มีการดับสูญให้มีการตายแล้วก็ให้มีชีวิตความเป็นอยู่”

“ก็เพื่อที่จะทดสอบเจ้า คือเราท่านทั้งหลายว่า ใครคนใดเล่าที่ทำดี รับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ได้ดีที่สุด” อายะฮ์ดังกล่าวได้บอกให้เรารับรู้ว่า สถานภาพที่เราต้องอยู่ในโลกนี้นั้นก็คือ หนึ่ง:อยู่ในฐานะที่ต้องถูกทดสอบ สอง : ต้องรับผิดชอบในภาระหน้าที่ ในการดูแลโลก ทั้งแก่ตัวเองครอบครัว และสังคม ต้องดูแลโลกให้สวยงาม ต้องไม่ทำความเสื่อมเสียแก่โลกนั่นเพราะโลกเป็นที่อยู่ของมนุษย์และมนุษย์ก็เป็นผู้ปกครองโลกได้รับการแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า ผู้สร้างโลกขึ้นมา แล้วก็ให้มนุษย์เป็นผู้ปกครอง เป็นผู้ดูแลและเมื่อมนุษย์เราเป็นผู้ปกครองโลกภาระหน้าที่ของเราท่านนั้นต้องทำอะไรบ้าง? โดยสรุปแล้ว เราท่านก็คงจะทราบกันดีอยู่ว่า การทำให้โลกสวยงามทำให้โลกน่าอยู่ ทำให้เกิดสุขและสันติ เพราะฉะนั้น ท่านที่รัก คนที่ถูกทดสอบคนที่ถูกควบคุมความประพฤติ คนที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในภาระหน้าที่ต่าง ๆจะหาความสุขความสบายทั้งกายและใจโดยสมบูรณ์แบบและถาวรได้หรือ?

Page 70: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ดังนั้นคำว่า“ภาระหน้าที่นั้น” หมายถึงความรับผิดชอบแม้จะทำให้ดีที่สุดสักเพียงใด แต่ก็อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ อย่างน้อยที่สุดก็ยังมีความกังวลใจอยู่ดี หากสังเกตดูในชีวิตของเรา เรามีความสมหวังในทุกเรื่องหรือไม่? บางครั้งเราได้สิ่งหนึ่ง แต่ก็ต้องเสียอีกสิ่งหนึ่งไป มีความสุขในส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งอาจได้รับความเดือดร้อน หรือการมีเงินมีทองมากมาย แต่อาจเกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย มันก็ไม่มีความสุข ในขณะที่หลายคนมีเงินมีบ้านมีรถมีทุกอย่างพร้อมสรรพ สุขภาพก็ดี แต่ไม่มีลูกทำให้ครอบครัวขาดความอบอุ่นขาดความสุข หรือครอบครัวนั้นมีลูก แต่ลูกเกิดมีนิสัยที่เกะกะเกเร ไม่รักดีในที่สุดก็ต้องมีทุกข์ทางใจมันก็ไม่มีความสุขดังนั้นความสุขความสมบูรณ์ในชีวิตของคนเรา หรือการเสวยสุขในความเป็นมนุษย์ของเราที่แท้จริงในโลกดุนยานี้จึงหาได้ยาก จะมีให้ก็อยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าหากมนุษย์รู้จักความพอเพียงในสิ่งที่ตนมีอยู่รู้จักการมอบหมายตนต่ออัลลอฮ์จะทำให้มนุษย์มีความสุข ดังนั้นความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ ความสุขของสังคมนั้น คือ ความเพียงพอในสิ่งที่ตนมีอยู่ซึ่งทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติด้วยความสุจริตธรรมมีความอดทนอดกลั้น เพื่อนำสังคมไปสู่ความสันติสุขความสันติภาพอย่างยั่งยืน

Page 71: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

“สุจริตธรรม นำสังคมให้พ้นวิบัติ และต้องกำจัดที่ต้นตอ”

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาที่เคารพ ความสุจริตธรรมถือเป็นส่วนหนึ่งของความยำเกรง ซึ่งมนุษย์ทุกคนต้องยึดหลักความสุจริตธรรมไว้ให้มั่น ทั้งทางกิริยา วาจา และจิตใจ และต้องระมัดระวังพฤติกรรมการบริโภคโดยต้องเลือกบริโภคเฉพาะอาหารที่ฮาลาลอาหารที่ได้รับการอนุมัติเท่านั้น พระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า

“โอ้มนุษย์ทั้งหลาย จงกิน จงบริโภคสิ่งที่ฮาลาล สิ่งที่ดีที่มีอยู่บนพื้นโลก และจงอย่างทำอย่าปฏิบัติไปตามการก้าวนำของซัยตอน เพราะแท้จริงซัยตอนนั้นสำหรับพวกเจ้าคือศัตรู ที่สำแดงพฤติกรรมของมันออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว มันจะทำให้พวกเจ้ากระทำในสิ่งที่เป็นความชั่ว โน้มน้าวจิตใจให้ประพฤติปฏิบัติไปในทางที่เสื่อมเสีย เลวทรามต่ำช้า แล้วก็จะให้พวกเจ้ากล่าวให้ร้ายพาดพิงถึงอัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้” (ซูเราะฮ์ อัลบะเกาะเราะฮ์อายะฮ์ที่168-169) จากอายะฮ์ที่นำมากล่าวนี้ ชี้นำให้เราทราบว่า ในชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์เรา ต่อสภาพแวดล้อม เหตุการณ์ และความเป็นไปของโลก ที่เราต้องดำรงชีวิตอยู่นั้น ให้พึงระมัดระวังแผนร้ายของซัยตอน ที่มักจะนำเราไปสู่ความชั่ว

Page 72: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความเป็นบาปพาเราไปตกหลุมพรางแห่งความเลวร้ายในกิเลสและความลุ่มหลงในความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ทำให้ชีวิตของเราต้องเกิดความมัวหมอง สูญเสียทั้งทรัพย์สินและเงินตรา ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณ ทำให้สภาพทางสังคมที่เราอยู่ร่วมกันเกิดความวิบัติ เสื่อมโทรมและไร้ความประพฤติที่ดีงาม ขาดศีลธรรมขาดคุณธรรม ขาดความยำเกรงอัลลอฮ์ แล้วที่สุดอนาคตหรือนาวาชีวิตของเราท่านที่โลดแล่นอยู่ในโลกอยู่ในสังคมก็จะอัปปางลง ความระส่ำระสาย ความไม่เป็นระเบียบ ความชั่ว ความเป็นบาปความผิดพลาดในการประพฤติปฏิบัติ ก็จะเกิดขึ้น นั่นเพราะซัยตอน เพราะฉะนั้นซัยตอนคือศัตรูตัวฉกาจของเราท่าน ซึ่งก็เป็นศัตรูที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลกและมนุษย์ที่มากไปด้วยกิเลสที่อัลลอฮ์ทรงสร้างขึ้น นับจากนบีอาดัม บุรุษคนแรกของโลก จนมาถึงเราท่าน และมันก็จะต้องเป็นศัตรูกับมนุษย์อย่างเราท่านเรื่อยไปตราบจนถึงวันกิยามะห์ ดังนั้น ผู้ใดที่อัลลอฮ์ให้การปกปักรักษาคุ้มครองจากแผนการชั่วร้ายของซัยตอน เขาจะพ้นภัยพ้นความวิบัติ ดังนั้นถ้าเราต้องการให้อัลลอฮ์คุ้มครองเราเราก็ต้องดำรงตนอยู่ในหลักจริยธรรมหลักสุจริตธรรมตามคำสั่งสอนของพระองค์ อยู่ในบทบัญญัติศาสนา และทางนำของพระองค์โดยเคร่งครัดแล้วนั่นแหละเราก็จะพ้นภัย และเมื่อใดขณะใดที่เราเผลอไผล ความเลวร้ายอันเนื่องมาจากพฤติกรรมการก้าวนำของซัยตอนก็จะเข้าครอบงำ ท่านพี่น้องที่รัก...ในประเทศของเราเป็นสังคมที่มีความเป็นศิวิไลซ์มีความเจริญก้าวหน้าทั้งในด้านวัตถุทั้งในด้านวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างจะทัดเทียมกับนานาอารยประเทศที่เจริญแล้ว แต่นั่นมิได้หมายถึงเป็นตัวบ่งชี้ ถึงความเจริญก้าวหน้าทางด้านจิตใจทางด้านความประพฤติและจิตใต้สำนึกของบุคคลในสังคม ในทุกตัวบุคคลโดยเฉพาะเด็กๆและเยาวชนคนรุ่นใหม่วัยสดใสวัยน่ารักจะมีความเจริญเติบโต

Page 73: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

และสวยงามไปตามสภาพความเจริญของบ้านเมือง ของสังคมที่แต่งแต้มสีสันและก็ปรุงแต่งชีวิตของเราให้ได้รับความสะดวกสบายไปด้วย กลับทำให้วัยรุ่นเด็ก ๆ และเยาวชนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมความประพฤติเสื่อมลงแล้วก็เสื่อมลงนั่นเพราะธุรกิจการค้า แฟชั่นนำสมัย นวัตกรรมแบบใหม่ ๆ หรือแม้แต่ธุรกิจบันเทิงเริงรมย์ต่างก็ออกมาโฆษณาเพื่อแก่งแย่งช่วงชิงลูกค้ากันโดยไม่คำนึงถึงจริยธรรม ศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เพียงเพื่อเงินตราหรือผลกำไรที่ได้รับเท่านั้น เราในฐานะผู้บริโภค ไม่รู้จักเลือก ไม่รู้จักพิจารณา ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจไม่รู้จักแยกแยะสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนให้คุณ สิ่งไหนให้โทษ แล้วก็เดินสู่คำโฆษณา เดินไปสู่ภาพลวงแห่งค่านิยมเหล่านั้น มันเป็นเส้นทางของซัยตอนทางแห่งหายนะแล้ว ความชั่วความเป็นบาป พิษภัยความเดือดร้อนในการประพฤติปฏิบัติตนก็จะเกิดขึ้นแล้วที่สุดนาวาชีวิตของเราก็จะอับปางลง ท่านพี่น้องที่รักทั้งหลาย...พฤติการณ์สร้างพฤติกรรม สภาพแวดล้อมมักเป็นตัวชี้นำ สภาพแวดล้อมดี สังคมก็ดี สภาพแวดล้อมวิกฤต สังคมวิบัติความเลวร้ายก็เกิดขึ้นความทุกข์ความเดือดร้อนของคนในสังคมก็ตามมา เพราะฉะนั้น เราต้องระมัดระวัง อย่าให้เส้นทางหรือพฤติกรรมของซัยตอนเข้าครอบงำ กิเลสและความต้องการของคนเรานั้นมักตอบรับ เห็นดีเห็นงามไปกับเส้นทางของซัยตอนเสมอ ในอัลกุรอานกล่าวเตือนให้เราสังวรตนอยู่เสมอว่า “แท้จริงอารมณ์ตัณหามักจะยุยงส่งเสริม ให้ทำความชั่ว”อันไหนไม่ดีก็อยากจะลองอยากจะทำอยากจะสัมผัสเส้นทางไหนที่ให้โทษ ให้อันตรายก็อยากจะเดิน อยากจะทำ อยากจะเสี่ยง มันตื่นเต้นและเร้าใจดีนั่นแหละคือชีวิต ท่านพี่น้องที่รัก...ความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองของเราท่านนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่เราท่านน่าจะภาคภูมิใจ ในฐานะที่เราเป็นประชากรเป็นเจ้าของบ้าน

Page 74: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

เจ้าของประเทศ ขณะเดียวกัน ความเจริญทางด้านจิตใจทางอารยธรรมศีลธรรม จริยธรรมความประพฤติ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง เป็นอีกประการหนึ่งที่เราท่านต้องให้ความสำคัญ ต้องระมัดระวังและให้การสังวรตน อย่าปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยลูกหลานให้เดินไปตามพฤติกรรมแวดล้อม และกระแสนิยมของสังคมที่ค่อนข้างจะวิกฤติในทางจริยธรรมความประพฤติในโลกปัจจุบันโลกสมัยใหม่โลกของวัฒนธรรมเลียนแบบแบบสุดกู่ เลียนแบบฝรั่งเลียนแบบยุโรปเลียนแบบตะวันตกที่ค่อนข้างจะมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่เปิดกว้างและมีอิสรเสรีเกินกว่าขนบธรรมเนียมประเพณี ความเป็นอยู่แบบไทย ๆ ของเราโดยเฉพาะในมุมมองของเราท่านผู้เป็นมุสลิมจะรับได้ เด็ก ๆ และเยาวชนคนรุ่นใหม่ ชอบพฤติกรรมเสรี ไม่ชอบที่จะให้ใครมาสอดส่องดูแลและบีบคั้น ชอบความเป็นส่วนตัว ชอบดูแลและมีทิศทางเป็นของตนเอง ประกอบกับยังอยู่ในวัยคึกคะนอง ก็อยากจะรู้ อยากจะเห็นอยากจะลองความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ทุกขณะ เราในฐานะผู้ปกครองก็ต้องหมั่นตรวจสอบและให้ความอบอุ่นอย่างใกล้ชิด ในด้านของการแต่งเนื้อแต่งตัว คนรุ่นใหม่วัยรุ่นมักมุ่งเน้นไปในทางเซ็กซ์มีของดีต้องโชว์เปิดไหล่ผายอกสายเดี่ยวสาวๆวัยรุ่นวัยน่ารักวัยใสๆจะให้ดังจะให้เด่น มีความทันสมัยขึ้นมาหน่อย ก็ต้องเปิดสะดือ โชว์หน้าท้องใส่ไฮไลท์ทรงผมสักนิด ก็น่าจะดูดี ตกกลางคืนยามราตรี ยามที่ซัยตอนออกปฏิบัติการ ก็ออกไปเที่ยว ไปรวมกลุ่ม ไปสนุกสนานกับเพื่อนฝูง ไปดิ้นตามเธคไปนั่งตามไนท์คลับ ตามแหล่งมั่วสุมที่มีอยู่มากมายดาษดื่นทั่วทุกมุมเมืองธุรกิจบันเทิงเฟื่องฟู มีกลยุทธ์ที่จูงใจ ให้การบริการลูกค้าแบบราชันย์ ไร้ขอบเขตไร้กำหนดเวลา และไร้จิตสำนึก มุ่งมอมเมาเด็ก ๆ และเยาวชน เพียงเพื่อเงินอย่างเดียว จนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องออกมาจัดระเบียบสังคมดังที่เราเห็นกันอยู่

Page 75: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ความเกี่ยวเนื่องหรือผลกระทบที่ตามมาเป็นอย่างไร?ติดเหล้าติดเบียร์เสพกัญชา เล่นยา ยาอี ยาบ้า ยาม้า ยากล่อมประสาท แล้วก็มั่วเซ็กซ์แอบมีเพศสัมพันธ์กันเป็นแฟชั่น ช่วงนี้ ที่ควรระมัดระวังกันหน่อย ก็คงเป็นยาเสพติด ในรูปของยาแก้ไอโฉมใหม่ล่าสุด สี่คูณร้อย ส่วนผสมสุดมหาภัยร้าย มีทั้งยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงรวมทั้งสีย้อมผ้า แล้วก็ใส่น้ำหอมดับกลิ่น ติดง่ายเลิกยาก พิษภัยรุนแรงกว่ายาบ้าทั่วไป ลูกหลานใครเครียด มีอาการเหม่อลอย ออกอาการสติเลอะเลือนก็ให้รีบตรวจสอบเดี๋ยวจะสายเกินแก้ พี่น้องที่รักและเคารพครับ เราจะต้องช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตัวเราครอบครัวของเราลูกหลานของเราและเยาวชนของเราด้วยศาสนาสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในกลุ่มชน มีตักวา มีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ เดินตามบทบัญญัติใช้และแนวทางของพระองค์โดยเคร่งครัด นั้นแหละคือเกราะคุ้มกันหรือกำแพงขวางกั้น ไม่ให้เราท่านและลูกหลานของเราทุกคน เดินเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข ยาเสพติด และพิษภัยความเลวร้ายต่าง ๆ นานาที่เกิดขึ้นในแวดวงสังคมซึ่งก็มีทั้งดีและไม่ดี ท่านพี่น้องที่รัก พึงสังวรเถิดว่า อบายมุข คือความชั่วช้า ยาบ้า คือมหาภัย พลังใจทุกคนต้องสำนึก จึงขอให้พี่น้อง ผู้ศรัทธาดำรงไว้ซึ่งหลักการของศาสนาหลักสุจริตธรรมจะน้อมนำให้สังคมพ้นวิบัติ

Page 76: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

การทำงานโดยสุจริตธรรม เสริมสร้างศีลธรรม

ผู้มีศรัทธาทั้งหลาย อัลหิซบะฮ์ คือ การกำชับให้ทำความดีเมื่อได้รับการละเลยและการห้ามทำความชั่วเมื่อมีการปฏิบัติเกิดขึ้น “ความดี” หมายถึง คำพูดการกระทำเจตนาที่ศาสนาส่งเสริมและสนับสนุนให้ปฏิบัติ“ความชั่ว”หมายถึงคำพูดการกระทำเจตนาที่ศาสนาถือเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและห้ามมิให้ปฏิบัติ การเสริมสร้างศีลธรรม เป็นภารกิจทางศาสนา โดยมีรากฐานมาจากพระราชโองการของพระผู้เป็นเจ้าใน(ซูเราะฮ์อาลิอิมรอนอายะฮ์ที่104)ดังนี้

“และจงให้บุคคลคณะหนึ่งในหมู่พวกท่าน ทำหน้าที่เรียกร้องสู่คุณธรรม กำชับให้ทำความดี และห้ามปรามความชั่ว เหล่านั้นแหละคือหมู่มวลผู้มีชัย” โดยนัยนี้ย่อมพิจารณาได้ว่า งานเสริมสร้างศีลธรรม เป็นภารกิจแห่งมหาชนมุสลิม ขณะที่พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสใน (ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอนอายะฮ์ที่110)ดังนี้

“พวกท่านเป็นประชาชาติที่ประเสริฐสุด ที่อุบัติขึ้นเพื่อมนุษยชาติ โดยพวกท่านทำการเชิญชวน สู่ความดี ห้ามปรามความชั่ว และมีศรัทธาต่อ พระผู้เป็นเจ้า”

Page 77: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

พระศาสดาแห่งพระผู้เป็นเจ้าศ้อลฯทรงตรัสว่า

“ผู้ใดในหมู่พวกท่านเห็นการทำความชั่ว ก็จงห้ามปรามด้วยกำลัง ของตน หากไม่มีความสามารถก็ด้วยวาจาของตน และหากไม่มีความสามารถอีก ก็ด้วยจิตใจของตน นั้นก็คือการศรัทธาขั้นต่ำที่สุด” การปล่อยให้การเชิญชวนสู่ความดี และห้ามปรามความชั่ว เป็นเรื่องของหมู่มวลมุสลิมและผู้มีศรัทธา ที่จะทำการเชิญชวนระหว่างกัน และห้ามปรามความชั่วแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะบางคนเป็นคนชั่วโดยสันดาน และขาดความยำเกรงในพระผู้เป็นเจ้า การจะให้เลิกทำความชั่วย่อมเป็นไปได้ยาก นอกจากจะเห็นการลงโทษ ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องแต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายปกครองเป็นการเฉพาะขึ้น รับผิดชอบภารกิจอันสำคัญนี้นั่นคือคณะทำงานเสริมสร้างศีลธรรม การเชิญชวนสู่ความดีและห้ามปรามความชั่ว ในอดีต คอลีฟะฮ์ เป็นผู้ทำหน้าที่เสริมสร้างศีลธรรมด้วยตนเองโดยท่านอุมัร อิบนุค๊อตต๊อบ ออกตรวจตราหมู่มวลมุสลิมทั้งกลางคืนและกลางวัน มุ่งให้ทุกฝ่ายดำเนินชีวิตตามบทบัญญัติศาสนา ครั้นเมื่อภารกิจมีมากขึ้น จึงแยกงานเสริมสร้างศีลธรรมเป็นการเฉพาะ และบางภาวะได้มอบหมายให้กอฏีย์เป็นผู้ทำหน้าที่เสริมสร้างศีลธรรม เนื่องจากลักษณะงานมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดเงื่อนไขของผู้ทำหน้าที่เสริมสร้างศีลธรรม คุณสมบัติของผู้เสริมสร้างศีลธรรม ซึ่งแตกต่างจากผู้เชิญชวนสู่ความดีและห้ามปรามความชั่วตามปกติมีดังนี้

Page 78: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

- ต้องเป็นผู้ศรัทธา - เป็นผู้บรรลุศาสนภาวะ - เป็นผู้มีความสามารถเชิญชวนสู่ความดีและห้ามปรามความชั่ว - เป็นผู้มีความรู้ ในบทบัญญัติศาสนาที่ตนทำการเชิญชวนหรือห้ามปรามนั่นคือคุณสมบัติที่นักวิชาการมีความเห็นตรงกันส่วนที่เห็นแตกต่างกันก็คือ - เป็นผู้มีความยุติธรรม - เป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำหรือผู้ที่รับผิดชอบคุณสมบัติของผู้เสริมสร้างศีลธรรม เพื่อให้การรณรงค์ของผู้สร้างเสริมศีลธรรมบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายและเป็นที่ยอมรับ จึงควรเป็นผู้ที่เพียบพร้อมด้วยหลักจริยธรรม ซึ่งจะกล่าวเพียงบางส่วนที่นักนิติศาสตร์อิสลามมีความเห็นพ้องกันคือ เป็นผู้ปฏิบัติตนตามความรู้โดยคำพูดและการกระทำต้องไม่แตกต่างกันต้องไม่เชิญชวนในสิ่งที่ตนเองไม่ทำ ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องเผชิญกับการเยาะเย้ยถากถางจากผู้คนและเพื่อให้การรณรงค์นั้นเป็นที่ยอมรับ เป็นผู้มีมารยาทดี วางตัวตามสบาย มีความอ่อนโยน ยิ้มแย้มแจ่มใสไม่ข่มขู่และมีวาจาสุภาพ เป็นผู้มีความนุ่มนวลในการตักเตือน การเชิญชวนและการห้ามปรามเพื่อผลในการโน้มน้าวจิตใจและบรรลุตามความต้องการ พูดและทำโดยมีเจตนาเพื่อแสวงหาความพอพระทัยจากพระผู้เป็นเจ้าโดยไม่ใส่ใจว่าการทำหน้าที่จะนำมาซึ่งความโกรธแค้นของผู้คน หรือได้รับความพึงพอใจจากผู้คน

Page 79: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

มีความอดทนต่ออันตรายที่ เกิดขึ้น ซึ่งต้องเกิดขึ้นแน่นอน และด้วยความอดทนจะเป็นเหตุแห่งความสำเร็จในการรณรงค์และได้รับชัยชนะในวันปรภพอันเกิดจากกุศลอันยิ่งใหญ่ ปฏิบัติ ในเรื่องที่ เป็นสุนัตเป็นเนืองนิตย์ ตลอดจนสิ่งดีงามตามบทบัญญัติ นอกเหนือจากสิ่งที่เป็นฟัรดู และวายิบ เพราะสิ่งดังกล่าวจะนำมาซึ่งความสุขุมคัมภีรภาพ ความใสสะอาดแห่งจิตใจและรัศมี เสริมส่งให้คำพูดเป็นที่ยอมรับและคำเตือนบังเกิดผล หน้าที่ของผู้เสริมสร้างศีลธรรม อำนาจหน้าที่ของผู้เสริมสร้างศีลธรรม ในการเชิญชวนสู่ความดีที่ถูกละเลย และห้ามปรามความชั่วที่ถูกนำมาปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ที่พึงปฏิบัติต่ออัลลอฮ์ต่อมนุษย์หรือทั้งต่ออัลลอฮ์และต่อมนุษย์สรุปได้ดังนี้ กำกับดูแลให้ไปละหมาดวันศุกร์ และละหมาดญะมาอะฮ์ที่มัสยิด รวมทั้งการดำรงไว้ซึ่งสัญลักษณ์ทั้งมวลและห้ามมิให้ขาดละหมาดโดยไม่มีเหตุจำเป็น ห้ามปรามผู้ขาดละหมาด หรือหลีกเลี่ยงการจ่ายชะกาต และห้ามผู้ไม่มีความรู้ทำการวินิจฉัยปัญหาศาสนา ห้ามดื่มสุรา ห้ามสร้างสถานบันเทิงที่ขัดต่อหลักการศาสนา การปะปนกันระหว่างหญิงชายหรือการกระทำอันเป็นที่สงสัย หน้าที่ต่อมนุษย์ ห้ามการละเมิดสิทธิของเพื่อนบ้าน ห้ามใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเพื่อนบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต กำกับดูแลอาจารย์ แพทย์ และผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ให้ดำเนินไปโดยซื่อสัตย์สุจริตใจและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่

Page 80: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

หน้าที่ต่อพระผู้เป็นเจ้าและมนุษย์ ห้ามการคดโกงในการประกอบธุรกิจ ห้ามการซื้อขายที่ขัดต่อบทบัญญัติศาสนารวมทั้งการทุจริตในมาตราชั่งตวงวัด ห้ามอิหม่ามแต่ละมัสยิด มิให้ทำละหมาดนานเกิดความพอดี และท้วงติงผู้พิพากษา ผู้นำละเลยคู่ความ และผู้มีสิทธิในผลประโยชน์ โดยไม่มีเหตุจำเป็นตามศาสนบัญญัติ ห้ามเจ้าของสัตว์เลี้ยงใช้งานเกินขีดความสามารถของสัตว์ รวมทั้งห้ามมิให้เจ้าของพาหนะบรรทุกเกินพิกัดจนนำไปสู่ความเสียหาย รักษามารยาทอิสลามโดยการแยกระหว่างหญิง-ชาย กำกับดูแลการใช้เส้นทางสัญจร ให้ใช้ประโยชน์ได้โดยสมบูรณ์ตามจุดมุ่งหมายห้ามการสร้างสิ่งก่อสร้างกีดขวางเส้นทางจราจรรวมทั้งบนหลุมฝังศพเพื่อจะได้ไม่ละเมิดศักดิ์ศรีของผู้ตาย จึงขอให้พี่น้องผู้ศรัทธาได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสังคมให้เกิดศีลธรรมสุจริตธรรมเพื่อน้อมนำไปสู่แนวทางแห่งพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง และเพื่อให้ทุกคนในสังคมได้รับความเมตตา ได้รับความรักจากพระองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทั้งโลกนี้และโลกหน้า

Page 81: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

คุตบะฮ์ที่สอง

Page 82: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

Page 83: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1
Page 84: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

ภาคผนวก

Page 85: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1
Page 86: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

คำสั่งกรมการศาสนา ที่ 72/2553

เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) .............................

ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เมื่อวันศุกร์ ที่ 9 มิถุนายน 2549 เกี่ยวกับคุณธรรม4 ประการ ประกอบด้วย เมตตาธรรม สามัคคีธรรม สุจริตธรรม และเที่ยงธรรมนั้น ในการนี้ เพื่อเป็นการน้อมนำพระราชดำรัสเกี่ยวกับคุณธรรม4ประการดังกล่าวไปสู่ประชาชนเพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม จึงเห็นสมควรแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อจัดทำหนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) สำหรับให้ผู้แสดงธรรมประจำมัสยิดต่าง ๆทั่วประเทศนำไปแสดงคุตบะฮ์(บทธรรมกถา)ประกอบด้วย 1.อธิบดีกรมการศาสนา ที่ปรึกษา 2.รองอธิบดีกรมการศาสนา ที่ปรึกษา 3.นายอรุณวันแอเลาะ ที่ปรึกษา 4.นายทองคำมะหะหมัด ที่ปรึกษา 5.นายอรุณบุญชม ประธานกรรมการ 6.นายพิสิทธิ์นิรัตติวงศกรณ์ กรรมการ 7.นายอับดุลเลาะห์หนุ่มสุข กรรมการ

Page 87: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

8.นายประสานศรีเจริญ กรรมการ 9.นายวิศรุตเลาะวิถี กรรมการ 10.นายพัฒนาหลังปูเต๊ะ กรรมการ 11.นายสันติเสือสมิง กรรมการ 12.นายปริญญาประหยัดทรัพย์ กรรมการ 13.นายเจ๊ะเลาะห์แขกพงศ์ กรรมการ 14.นายอุสมานราษฎร์นิยม กรรมการ 15.นายสมยศหวังอับดุลเลาะ กรรมการ 16.นายอนุชาหะระหนี กรรมการและเลขานุการ 17.นายแวหามะดีแม กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 18.นายพีระพลอาแว กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่งณวันที่12มีนาคมพ.ศ.2553 (นายสด แดงเอียด) อธิบดีกรมการศาสนา

Page 88: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

��

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

คำสั่งกรมการศาสนา ที่ 111/2553

เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) เพิ่มเติม .............................

ตามที่ กรมการศาสนาได้มีคำสั่ง ที่ 72/2553 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ลงวันที่ 12 มีนาคม 2553เพื่อพิจารณาจัดทำต้นฉบับหนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) เพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดยการน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เกี่ยวกับคุณธรรม 4 ประการ ประกอบด้วยเมตตาธรรมสามัคคีธรรมสุจริตธรรมและเที่ยงธรรมนั้น ในการนี้ เพื่อให้การจัดทำต้นฉบับหนังสือคุตบะฮ์ดังกล่าว สำเร็จตามวัตถุประสงค์ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหนังสือคุตบะฮ์ (บทธรรมกถา)เพิ่มเติมประกอบด้วย 1.นายสมหวังบินหะซัน กรรมการ 2.นายนิมิตเลาะมะ กรรมการ 3 นายอนันต์วันแอเลาะ กรรมการ 4.นายอับดุลลอฮดาโอ๊ะ กรรมการ

Page 89: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

�0

คุตบะฮ์ (บทธรรมกถา) ว่าด้วยสุจริตธรรม

ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่งณวันที่7เมษายนพ.ศ.2553 (นายสด แดงเอียด) อธิบดีกรมการศาสนา

Page 90: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

104

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM104

Page 91: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

103

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM103

Page 92: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

102

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM102

Page 93: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

101

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM101

Page 94: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

100

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM100

Page 95: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

99

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM99

Page 96: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

98

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM98

Page 97: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

97

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM97

Page 98: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

96

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM96

Page 99: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

95

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM95

Page 100: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

94

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM94

Page 101: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

93

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:23 PM93

Page 102: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

92

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM92

Page 103: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

91

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM91

Page 104: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

90

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM90

Page 105: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

89

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM89

Page 106: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

88

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM88

Page 107: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

87

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM87

Page 108: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

86

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM86

Page 109: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

85

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM85

Page 110: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

84

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM84

Page 111: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

83

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM83

Page 112: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

82

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM82

Page 113: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

81

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM81

Page 114: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

80

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM80

Page 115: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

79

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM79

Page 116: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

78

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM78

Page 117: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

77

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM77

Page 118: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

76

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM76

Page 119: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

75

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:24 PM75

Page 120: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

74

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:25 PM74

Page 121: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

73

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:25 PM73

Page 122: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

72

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:25 PM72

Page 123: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

71

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:25 PM71

Page 124: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

70

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:25 PM70

Page 125: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

69

AW_yavee3-4 9/2/11, 1:25 PM69

Page 126: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

68

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:48 PM68

Page 127: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

67

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:48 PM67

Page 128: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

66

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:48 PM66

Page 129: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

65

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:48 PM65

Page 130: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

64

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:48 PM64

Page 131: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

63

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM63

Page 132: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

62

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM62

Page 133: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

61

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM61

Page 134: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

60

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM60

Page 135: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

59

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM59

Page 136: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

58

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM58

Page 137: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

57

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM57

Page 138: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

56

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM56

Page 139: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

55

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM55

Page 140: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

54

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM54

Page 141: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

53

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM53

Page 142: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

52

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM52

Page 143: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

51

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM51

Page 144: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

50

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM50

Page 145: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

49

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM49

Page 146: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

48

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM48

Page 147: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

47

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM47

Page 148: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

46

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM46

Page 149: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

45

AW_yavee3-3 9/2/11, 1:49 PM45

Page 150: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

44

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM44

Page 151: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

43

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM43

Page 152: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

42

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM42

Page 153: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

41

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM41

Page 154: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

40

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM40

Page 155: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

39

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM39

Page 156: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

38

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM38

Page 157: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

37

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM37

Page 158: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

36

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM36

Page 159: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

35

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM35

Page 160: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

34

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM34

Page 161: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

33

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM33

Page 162: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

32

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM32

Page 163: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

31

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM31

Page 164: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

30

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM30

Page 165: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

29

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM29

Page 166: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

28

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM28

Page 167: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

27

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM27

Page 168: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

26

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM26

Page 169: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

25

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:20 PM25

Page 170: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

24

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:21 PM24

Page 171: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

23

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:21 PM23

Page 172: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

22

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:21 PM22

Page 173: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

21

AW_yavee3-2 9/2/11, 1:21 PM21

Page 174: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

20

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM20

Page 175: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

19

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM19

Page 176: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

18

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM18

Page 177: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

17

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM17

Page 178: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

16

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM16

Page 179: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

15

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM15

Page 180: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

14

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM14

Page 181: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

13

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM13

Page 182: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

12

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM12

Page 183: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

11

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM11

Page 184: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

10

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:18 PM10

Page 185: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

9

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM9

Page 186: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

8

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM8

Page 187: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

7

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM7

Page 188: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

6

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM6

Page 189: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

5

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM5

Page 190: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

4

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM4

Page 191: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

3

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM3

Page 192: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

2

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM2

Page 193: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

1

AW_yavee3-1 9/2/11, 1:19 PM1

Page 194: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

7

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM7

Page 195: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

6

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM6

Page 196: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

65

71

78

87

92

100

102

104

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM5

Page 197: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

1

7

15

21

29

36

41

48

55

61

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM4

Page 198: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM3

Page 199: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM2

Page 200: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

AW_yavee3-F 26/3/11, 3:38 PM1

Page 201: AW yavee3-Fค ตบะฮ ว นศ กร เง อนไขและองค ประกอบสำค ญ ค ตบะฮ ว าด วยส จร ตธรรม 1

§ÿµ∫–Œå (∫∑∏√√¡°∂“) «à“¥â«¬

 ÿ®√‘µ∏√√¡

กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

§ÿµ

∫–Œå (∫

∑∏√√¡

°∂“) «à“¥â«¬  ÿ®√‘µ

∏√√¡