Boolean
การลดทอนลอจิกด้วย พีชคณิต
เนื่องจากเราสามารถใช้กฏของพีชคณิตเพื่อลดรูปสมการบูลีนได้ หรือสามารถลดทอนวงจรลอจิกให้สั้นลงได้ ซึ่งส่งผลดีต่อการออกแบบวงจรดิจิตอล
ดังนั้นแทนท่ีเราจะต้องใช้ Gate จ านวนมากในการท างาน เราสามารถออกแบบให้มีวงจรขนาดเล็กลง แต่ให้ผลลัพธ์ออกมาเท่ากับวงจรขนาดใหญไ่ด้
ตัวอย่างการลดรูปสมการ
ตัวอย่างการลดรูปสมการ
ทฤษฏีของ ดีมอร์แกน
ทฤษฏีของดีมอร์แกน เป็นทฤษฏีที่ใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาของพีชคณิตบูลีน กรณีท่ีสมการของตัวแปล อยู่ภายใต้เครื่องหมาย 𝐴𝑁𝐷 และ 𝑂𝑅 ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนสมการ 𝑂𝑅 เป็น AND ได้ขอให้พิจารณาสมการดังนี้
BABA
BABA
1.
เราใช้ตารางความจริงในการแสดงการเท่ากนัของค่าทางด้านซ้ายมือและคา่ทางด้านขวามือ
2. ทดลองสร้างตารางความจริงของ
BABA
A B 𝐴 ∙ 𝐵 𝐴 ∙ 𝐵 𝐴 𝐵 𝐴 + 𝐵
0 0 0 1 1 1 1
0 1 0 1 1 0 1
1 0 0 1 0 1 1
1 1 1 0 0 0 0
BABA
จากทฤษฎีนี้ แสดงให้เห็นว่าผลจากการ NAND กันของอินพุต 2 ตัว จะมีค่าเช่นเดียวกับการอินเวอร์ตค่าอินพุตทั้งสองแล้วน ามา OR กัน ดังรูป
และแสดงให้เห็นว่าผลจากการ NOR กันของอินพุต 2 ตัว จะมีค่าเช่นเดียวกับการอินเวอร์ตค่าอินพุตทั้งสองแล้วน ามาAND กัน ดังรูป
A
B
A
BA B
A + B
A+B A BA
B
A
B
จงลดรูปสมการต่อไปนี้
สมการ SOP และ POS
การเขียนสมการบูลนี แสดงการกระท าของลอจิกต่างๆ จะประกอบด้วย x และ . จึงได้มีการก าหนดรูปแบบ ของสมการ นิพจน์บูลีน 2 รูปแบบคือ Sum-of-Products และ Products-of-Sum (SOP และ POS) รูปแบบ SOP จะเป็นการน าเทอมท่ีเกิดจากการ AND กันต้ังแต่ 2 เทอม มา OR กันเช่น1. 𝐴𝐵𝐶 + 𝐴𝐵 𝐶
2. 𝐴𝐵 + 𝐵𝐶 + 𝐴 𝐶
รูปแบบ POS จะตรงข้ามกับ SOP คือเกิดจากการ OR กันต้ังแต่ 2 เทอม มา AND กันเช่น
1. 𝐴 + 𝐵 + 𝐶 ( 𝐴 + 𝐵 + 𝐶)
2. (𝐴 + 𝐵)(𝐵 + 𝐶)( 𝐴 + 𝐶)
สมการ SOP รูปแบบมาตรฐาน
จากการเขียนในรูปแบบ SOP เทอมอาจจะมีตัวแปรคนละตัวกันตัวอย่างเช่น 𝐴𝐵 𝐶 + 𝐴 𝐵𝐷 + 𝐴 𝐵𝐶 𝐷
จะเห็นว่าตัวแปลทั้งหมดคือ A,B,C,D เราจะเห็นว่า 2 เทอมแรกมีตัวแปรไม่ครบถ้าหากเป็นรูปแบบ SOP มาตรฐานเทอมแรกควรมีตัวแปร D หรือ 𝐷 เทอมท่ี 2 ควรมี C หรือ C วิธีการท าให้เป็น SOP มาตรฐานให้ด าเนินการดังนี้
1. คูณเทอมที่ตัวแปรไม่ครบด้วยตวัแปรที่ยงัไม่มี และมีค่าทางบูลีนเป็น 1 เช่น ( 𝐴 + 𝐴)
2. ท าขั้นตอนท่ี 1 กับทุกเทอมที่ตัวแปรยังไม่ครบ
ตัวอย่าง
จงเขียนนิพจน์บูลีนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูป SOP มาตรฐาน A BC+ B A+AB CD
วิธีท า
จะเห็นว่าเทอมแรกไม่มีตัวแปล D และ 𝐷 ให้คูณด้วย ( D + D)
A BC = A BC D + D
= A BC D + A BCD
เทอมอ่ืนๆ ท าเช่นเดียวกับเทอมแรก จะได้สมการ SOP มาตรฐานดังนี้A BC D + A BCD + A BCD + A BC D + A B CD + A B C D + AB CD
สมการ SOP และ POS
จากตารางความจริง แสดงค่า ของการกระท าของสมการ และจะได้ค่า Y คือ เอาต์พุตของสมกา จากตารางความจริงสามารถถอดความสัมพันธ ์ในตารางออกมาเป็น
สมการพีชคณิตได้ โดย1. ให้พิจารณา ค่าเอาต์พุตที่เป็น 1 และเขียนเทอมของ A B C ออกมา
แต่ละตัว 2. หากค่าตัวแปลมีค่า เป็น 0 ให้เขียน โดยใช้ not ก ากับ และถ้าเป้น
1 ให้ใช้ตัวแปรปรกติ 3. น าตัวแปรแต่ละตัวกระท าการ And กัน จากนั้นท าเทอมแต่ละ
เทอมมา Or กัน วิธีนี้เราจะเรียกว่า การเขียน แบบ Sum of Product (SOP)จากตารางความจริงเราเขียนสมการ SOP ได้ว่า
สมการ SOP และ POS
ท าการลดรูปสมการพีชคณิต
ตัวอย่าง
สมการ SOP และ POS
สมการแบบ POS product of Sum รูปแบบ POSจะตรงข้ามกับ SOP ตั้งแต่การพิจารณา เอาต์พุต การเขียนตัวแปลแต่ละตัวและการติดเครือ่งหมาย Not ให้พิจารณาตารางต่อไปนี้
จากผลการลดรูป POS จะเห็นว่าได้ผลเท่ากับสมการ ของ SOP ดังน้ัน เราจะเลือกใช้การถอดแบบใดขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับ เอาต์พุด เช่น ถ้ามีเอาพุต 0 น้อยให้เลือกใช้แบบ POS แต่ถ้า มี 1 น้อยให้เลือกใช้งานแบบ SOP เพื่อให้การลดรูปสมการไมซ่ับซ้อนจนเกินไป
ตัวอย่าง
การบ้าน
การบ้าน
การบ้าน