weekly brief 19 - 31 may 11 issue 17
DESCRIPTION
Weekly Brief 19 - 31 May 11 Issue 17TRANSCRIPT
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
1
19-31 May 2011
Thai Food Processors’ Association
Useful Weblink-Technical information By TFPA
ญี่ปุ่นไฟเขียวสารปรุงแต่งอาหาร 25ชนิด
เอเปคเห็นพ้องเปิดเสรีตลาดอาหาร
th
WEEKLY BRIEF TFPA Trade & Technical Vol. 2
issue 17
สธ.ปลดล็อก 5 จว. น�าเข้าอาหารญี่ปุ่น
ดีเดย์ 15 มิ.ย. 54 เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว
www.thaifood.org
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
2
สารบัญข่าวประชาสัมพันธ ์
ข ้อมูลทางด้านเทคนิคUseful Weblink-Technical information เอกสารแนบ 1เตือนผู้ประกอบการไทย ระวังสาร Oxytetracycline ในกุ้งส่งออกไปญี่ปุ่นสธ.ปลดล็อก 5 จังหวัดน�าเข้าอาหารญี่ปุ่นอย. เผย ความคืบหน้ามาตรการอาหารน�าเข้าจากญี่ปุ่นรัฐบาลเวียดนามเข้มงวด ยุติการใช้สารปรุงแต่งอาหารผิดกฏหมายญี่ปุ่นไฟเขียวสารปรุงแต่งอาหาร 25 ชนิด ที่เหลือไม่อนุญาตให้ใช้ 55 ชนิดสิงคโปร์ปลดแบนสินค้าน�าเข้าจากบางจังหวัดในญี่ปุ่นสธ.เตือนระวังอาหารสีแดงสดพาณิชย์เข้มงวดน�าเข้า-ส่งออกยา เภสัชเคมีภัณฑ์ฯและสารเคมี 16 รายการ
สถานการณ์ด้านประมงฟิจิเฮ อียูไฟเขียวน�าเข้าปลาแคลิฟอเนียร์รับรองกฎหมาย ห้ามการจ�าหน่ายและครอบครองหูฉลาม
สถานการณ์ด้านเกษตรความคืบหน้าญี่ปุ่นแก้ไขค่า MRLs สารเคมีทางการเกษตรและสารปรุงแต่งอาหารธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินชดเชยปุ๋ย ตันละ1.5พันบาทอนุมัติกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกร 500 ล้านบาทผลิตเอทานอลจากมันเทศ
สถานการณ์ด้านเกษตรไทยเร่งเปิด FTA เปรูและชิลี ประตูการค้าสู่ตลาดลาตินอเมริกากรมส่งออกฯชี้หนี้อียูไม่มีผลกระทบการค้าไทยไปยุโรป เตือนผู้ส่งออกเลือกลูกค้าเอเปคเห็นพ้องเปิดเสรีตลาดอาหาร31 พ.ค.หมดเวลาส่งงบการเงิน ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าดีเดย์ 15 มิถุนายน 2554 เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว
ลดภาษี AFTA ไทยผงาด TOP 5 ส่งออก-น�าเข้า
3
44556678
99
10111112
141515161717
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
3
งานสัมมนา “สัมมนา-นวัตกรรมและ
การประยุกต์ใช้งานบรรจุภัณฑ์อาหาร เพื่อ
สนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารไทย” ในวันที่
22 มิถุนายน 54 ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ ปาร์ค,
กทม. งานนี้จัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี
และให้ข้อมูลความรู ้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ หลักการออกแบบและ
การประยุกต์ใช้บรรจุภัณฑ์ในอนาคต ให้แก่
ผู ้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร/อาหาร
ส�าเร็จรูป โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านการ
บรรจุภัณฑ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนาเรื่อง “Value Cre-ation & The Creative Economy - A
Thai Perspective : เศรษฐกิจสร้างสรรค์กับ
มุมมองธุรกิจส่งออกไทย” ในวันที่ 7 มิถุนายน
2554 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 1 กรม
ส่งเสริมการส่งออก ถ.รัชดาภิเษก ผู้ที่สนใจ
สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.dep-
thai.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ 02-5120093 ต่อ 604 หรือ ทาง E-
mail:[email protected]
ข่าวประชาสัมพันธ ์
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
4
เตือนผู้ประกอบการไทย ระวังสาร Oxytetracycline ในกุ้งส่งออกไปญี่ปุ่น
กระทรวงสาธารณสุขฯ ญี่ปุ่น แจ้งเตือน
มายังส�านักงานที่ปรึกษา การเกษตรต่าง
ประเทศ ประจ�ากรุงโตเกียวว่าตรวจพบสาร
Oxytetracycline ในกุ้งแช่แข็งของไทย (Fro-
zen peeled shrimp) จากบริษัทส่งออกแห่ง
หนึ่ง เกินค่ามาตรฐาน (MRL 0.2 ppm) ซึ่ง
น�าเข้าในวันที่ 11 พฤษภาคม 2554 ท�าให้
ญี่ปุ ่นแจ้งว่าจะปรับระดับคุมเข้มในการสุ ่ม
ตรวจสารดังกล่าวในกุ้งน�าเข้าจากไทย และ
หากตรวจพบสารนี้ เกินมาตรฐานอีก จะ
ท�าการกักกันกุ้งน�าเข้าจากไทยทุกรุ่น
ที่มา : มกอช. วันที่ 26 พ.ค. 54
สธ. ปลดล็อก 5 จังหวัด น�าเข้าอาหารญี่ปุ่น
กระทรวงสาธารณสุขเตรียมปรับลดจ�านวนจังหวัดที่ต้องมีการควบคุมอาหารน�าเข้าจากญี่ปุ ่นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี หรืออาหารน�าเข้าจากญี่ปุ่น หลังเกิดสึนามิในพื้นที่เสี่ยงจากเดิม 12 จังหวัด เหลือเพียง 7 จังหวัดที่ยังคงต้องเฝ้าระวัง คือ จังหวัดฟุกูชิมะ กุนมะ อิบารากิ โตชิกิ มิยางิ โตเกียว และ ชิบะ และให้เพิ่มจังหวัด คานากาวะ รวมเป็น 8 จังหวัด ซึ่งจะเร่งออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เก่ียวข้องให้แล้วเสร็จใน 1 เดือน
ส่วนอาหารที่ต้องคุมเข้มเป็นพิเศษ คือ อาหารทะเล พืชผัก และผลไม้ โดยอาหารน�าเข้าเหล่าน้ี ต้องมีใบแสดงแหล่งก�าเนิด ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ และเมื่อมีการน�าเข้าส�านักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะท�าการตรวจซ�้าก่อนให้น�าออกจ�าหน่ายหรือรับประทานในประเทศ ขณะที่ผลการตรวจอาหารน�าเข้าจากญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมา 323 รายการ ไม่พบการปนเปื้อน 322 รายการ
ท่ีมา : กรุงเทพธุรกิจ วันท่ี 26 พ.ค. 54
ข้อมูลทางด้านเทคนิค
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
5
อย. เผย ความคืบหน้ามาตรการอาหารน�าเข้าจากญี่ปุ่น
อย. ติดตามสถานการณ์การรั่วไหลของสาร
กัมมันตรังสีในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับลด
มาตรการหากสถานการณ์ดีข้ึน และประเทศ
อื่น ๆ ปรับระดับการคุมเข้มลดลง เผย ยอด
สะสมอาหารที่ อย. สุ่มตรวจหาสารกัมมันตรังสี
ณ วันที่ 19 พ.ค. 54 จ�านวน 322 ตัวอย่าง
ผลการวิเคราะห์ทุกรายการอยู่ในระดับ “ปกติ”
อ่านต่อ คลิก http://www.fda.moph.go.th/
www_fda/data_center/ifm_mod/nw/ข่าว
อาหารน�าเข้าจากญี่ปุ่น_19-5-54.pdf
ที่มา อย. วันที่ 19 พ.ค. 54
รัฐบาลเวียดนามเข้มงวด ยุติการใ ช ้ ส า ร ป รุ ง แ ต ่ ง อ า ห า ร ผิ ด ก ฏห ม า ย
องค ์การด ้านความปลอดภัยและสุข
อนามัยอาหารพบว่า ผู ้ผลิตรายเล็กจ�านวน
มากใช้สารปรุงแต่งที่ใช้ในอุตสาหกรรมแทน
สารที่ ใช ้ใน อาหารเพื่อลดต้นทุนการผลิต
โดยเพิกเฉยข ้อเท็จจริงที่ว ่าสารเหล ่านี้มีสิ่ง
เจือปน รวมถึงธาตุโลหะหนักปะปนอยู ่ด ้วย
ผลการตรวจจากสถาบันความปลอดภัย
และสุขอนามัยด้านอาหารพบว่า จากการ
ตรวจตัวอย่างเมล็ดเมลอนแห้ง 17 จาก 30
ตัวอย่างตรวจพบสารก่อมะเร็ง Rhodamine
B ปริมาณตั้งแต่ 4.9 มิลลิกรัม ถึง 146.56
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และยังตรวจพบสารชนิด
เดียวกันนี้ในพริกป่น 27 จาก 30 ตัวอย่าง
ปริมาณตั้งแต่ 20.2 มิลลิกรัม ถึง 110.2
มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม นอกจากน้ีการตรวจสี
ผสมอาหาร 9 ชนิดใน 203 ตัวอย่าง พบ
ว่าทุกตัวอย่างที่ใส่สีน�้าเงิน ม่วง และ ชมพู
ใช ้สีที่ ไม ่ได ้อยู ่ ในรายการที่อนุญาตให้ใช ้
กระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบดูแลการ
ผลิต จ�าหน่าย และการใช้สารปรุงแต่งอาหาร
หลังจากกฏหมายความปลอดภัยด้านอาหาร
มีผลบังคับใช้ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554
ท่ีมา มกอช. วันท่ี 19 พ.ค. 54
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
6
ญี่ปุ่นไฟเขียวสารปรุงแต่งอาหาร 25 ชนิด ที่ เหลือ ไม ่อนุญาตให ้ใช ้ 55 ชนิด
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 กระทรวงสา
ธารณสุขฯ ญี่ปุ่น (MHLW) ได้ประกาศราย
ชื่อสารปรุงแต่งอาหารที่ไม่อนุญาตให้ใช้ 80
ชนิด และเปิดรับฟังความเห็น ผลปรากฎ
ว่า อนุญาตให้ใช้สารปรุงแต่งอาหารเพิ่มเติม
อีก 25 ชนิด ท�าให้เหลือรายชื่อสารปรุงแต่ง
อาหารที่ไม่อนุญาตให้ใช้อีกเพียง 55 ชนิด
ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 พฤษภาคม
2554 นี้ รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.
acfs.go.th/news/docs/acfs_19-04-54.pdf
ที่มา มกอช. วันที่ 19 พ.ค. 54
สิงคโปร์ปลดแบนสินค้าน�าเข้าจากบางจังหวัดในญี่ปุ่น
สิงคโปร์จะยกเลิกการระงับน�าเข้าผักและผล
ไม้จากจังหวัดชิซุโอกะ และ เฮียวโงะ หลังพบ
ว่ารังสีปนเปื้อนสินค้าก่อนหน้าน้ีไม่ได้มาจากสอง
เมืองดังกล่าว แต่มาจากไซตามะ และ อิบารากิ
ความผิดพลาดเกิดจากการที่ผู้ส่งออกระบุแหล่ง
ก�าเนิดของสินค้าผิด ท�าให้ผักและผลไม้จากเมือง
ชิซุโอกะ และ เฮียวโงะ ถูกระงับการน�าเข้าวันที่
31 มีนาคม และ 4 เมษายน 2554 ตามล�าดับ
ทางญี่ปุ ่นเริ่มแผนการออกใบประกาศแหล่ง
ก�าเนิดของสินค้าส�าหรับสินค้าส่งออก สู่สิงคโปร์
เพื่อความสะดวกในการติดตาม และสิงคโปร์ให้
ความร่วมมือในการปรับใช้แผนการน้ี อย่างไร
ก็ตามสินค้าบางชนิดจากจังหวัดฟุกุชิมะ อิบา
รากิ โตชิกิ กุนมะ ชิบะ คานากาวะ ไซตามะ
และโตเกียวยังถูกระงับการน�าเข้าอยู่
ท่ีมา มกอช. วันท่ี 20 พ.ค. 54
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
7
สธ.เตือนระวังอาหารสีแดงสด น.พ.วีรพล นิธิพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขสมุทรปราการ เปิดเผยว่า พบอาหารที่ไม่ได้
มาตรฐาน เพราะมีการใส่สีและวัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กฎหมายก�าหนด ได้แก่ โซเดียมไนไตรท์
ที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารบูดเน่า ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และท�าให้เนื้อมีสี
แดงน่ากิน เช่น ไส้กรอก กุนเชียง แหนม เนื้อเค็ม โดยปริมาณที่กระทรวงสาธารณสุขก�าหนดให้
ใช้ได้ต้องไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม หากผู้บริโภคได้รับในปริมาณมากเกินไป จะ
ท�าให้เกิดอาการคลายตัวของหลอดเลือด เกิดสภาวะที่เม็ดเลือดแดงไม่รับออกซิเจน มีอาการหน้า
แดง ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ ถ้าได้รับในปริมาณมาก จะเกิดอาการเนื้อตัวเขียว คลื่นไส้ อาเจียน
ส�าหรับผู้ผลิตอาหารจากเนื้อสัตว์ หากใส่สีเกินกว่าก�าหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่น
บาท และหากใช้วัตถุกันเสียเกินกว่าก�าหนด จัดเป็นอาหารผิดมาตรฐานต้องระวางโทษปรับไม่
เกิน 5 หมื่นบาท ในส่วนของผู้บริโภค ควรเลือกซื้อไส้กรอกที่อยู่ในภาชนะบรรจุที่มีเครื่องหมาย
อย. มีการแสดงฉลากที่ถูกต้อง ระบุแหล่งที่ผลิต และหากพบเห็นการผลิตหรือจ�าหน่ายไส้กรอก
ที่มีสีแดงสดผิดธรรมชาติ
ที่มา มกอช. วันที่ 20 พ.ค. 54
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
8
พาณิชย์เข้มงวดน�าเข้า-ส่งออกยา เภสัชเคมีภัณฑ์ฯและสารเคมี 16 รายการ นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการ
ค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มี
มาตรการควบคุมการน�าเข้า ยา เภสัชเคมีภัณฑ์ฯ
รวม 16 รายการ เป็นสินค้าที่จะต้องขออนุญาต
ก่อนน�าสินค้าเข้ามาในไทยด้วยวัตถุประสงค์ ที่
แตกต่างกัน เช่น สารเคลนบิวตารอล (Clen-
buterol)และ สารอัลบิวเตอรอล (Albuterol) หรือ
สารซัลบิวตามอล (Salbutamol) ที่ใช้เป็นสารเร่ง
เนื้อแดงในสุกร มีประกาศควบคุมน�าเข้าเพื่อความ
ปลอดภัยของผู้บริโภคเนื้อสุกรในประเทศ รวม
ถึงเภสัชเคมีภัณฑ์ที่อาจกลายเป็นสารตกค้างใน
สินค้าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงเพื่อการบริโภค เช่น
กุ้ง ไก่ ฯลฯ ประเภทไนโตรฟูแรน (Nitrofurans) และ คลอแรมฟินิคอล (Chloramphenicol)
ที่ปร! ะเทศคู่ค้าหลักของไทย เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น มีความเข้มงวดใน
การตรวจสอบ และอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอาหารจากไทยไปประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ในอนาคตได้ รวมถึงเคมีภัณฑ์และสารเคมีบางชนิด เช่น สารกาเฟอีน (Caffeine) และ สาร
โพแทสเซียมเพอร์แมงกาเนต (Potassium Permanganate) เป็นสินค้าจะต้องขออนุญาตน�า
เข้าหรือส่งออกเช่นกัน
ที่มา : ส�านักข่าวอินโฟเควสท์ วันที่ 25 พ.ค. 54
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
9
ฟิจิเฮ อียูไฟเขียวน�าเข้าปลา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟิจิส่งออกปลาแช่
แข็งไปสหภาพยุโรปเป็นรอบการส่งออกแรก
หลังจากถูกระงับเป็นเวลา 3 ปี โดยส่งออก
ปลาทูนาครีบยาวแช่แข็ง (albacore tuna)
โดยมีบริษัทฟิจิ 2 แห่งที่ได้จดทะเบียนส่งออก
ปลาไปยังสหภาพยุโรป
ที่มา : FIS วันที่ 25 พ.ค. 54
แคลฟิอเนยีร์รบัรองกฎหมาย ห้ามการจ�าหน่ายและครอบครองหูฉลาม คณะกรรมการรบัรองกฎหมาย (AB376) ว่า
ด้วยการห้ามจ�าหน่าย แลกเปลี่ยน หรือครอบ
ครองหูฉลาม ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของชาว
เอเชีย กฏหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการด้วยคะแนน 63 ต่อ 8 โดย
ผู้สนับสนุนอ้างว่าการกระท�าดังกล่าวจะท�าให้
ฉลามสูญพันธุ์และท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ที่ จ ะ ท� า ใ ห ้ ร ะ บบ นิ เ ว ศ ใ ต ้ น�้ า เ สี ย ห า ย
ถึงแม ้การตัดหูฉลามผิดกฎหมายใน
น่านน�้าสหรัฐฯ แต่ไม่สามารถท�าอะไรผู้ตัด
หูฉลามในน่านน�้าระหว่างประเทศได้ จึง
จ�าเป็นต้องออกกฎหมายระงับการจ�าหน่าย
ในตลาดรัฐแคลิฟอเนียซึ่งมีความต้องการ
หูฉลามในตลาดมากที่สุดที่อยู่นอกทวีปเอเชีย
ผู้สนับสนุนระบุว่า หูฉลามจ�าหน่ายในราคา
สูงถึง 600 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปอนด์ และ
การตัดหูฉลามท�าให้ฉลามตายกว่า 73 ล้าน
ตัวต่อปี ในขณะที่ผู้ต่อต้านกฎหมายนี้อ้างว่า
เป็นการใช้อ�านาจมากเกินไปในการบงการสิ่ง
ที่ชาวแคลิฟอเนียจะสามารถรับประทานได ้
ขณะน้ีร ่างกฏหมายดังกล ่าวรอการ
พิจารณาจากวุฒิสภาและคาดว่าจะมีผลบังคับ
ใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2556 เพื่อให้เวลาผู้
ประกอบการสามารถปฏิบัติตามได้
ท่ีมา : AP วันท่ี 25 พ.ค. 54
สถานการณ์ด้านประมง
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
10
ความคืบหน้าญี่ปุ่นแก้ไขค่า MRLs สารเคมีทางการเกษตรและสารปรุงแต่งอาหาร เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2554 กระทรวงสาธารณสุข แรงงงานและสวัสดิการญี่ปุ่น
(MHLW) ได้จัดประชุมชี้แจงรายละเอียดการปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานสารเคมีตกค้าง และสาร
ปรุงแต่งครั้งที่ 149 (the 149th Conference for Promotion of Food Import Facilita-
tion) สรุปสาระส�าคัญได้ดังนี้
1. ก�าหนดมาตรฐานสารเคมีทางการเกษตรและยาที่ใช้กับสัตว์ 7 ชนิด ได้แก่ Aci-
fluorfen, Dithianon, Lactofen, Pendimethalin, Picolinafen, Levamisole, Mebenda-
zole
2. พิจารณาขึ้นทะเบียนสารปรุงแต่ง 2 ชนิด ที่อนุญาตให้ใช้เป็นสารปรุงแต่งกลิ่น รส
เท่านั้น ได้แก่ Isoquinoline และ Pyrrole
ทั้งนี้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายแก้ไขมาตรฐานสารเคมีตกค้างและ สาร
ปรุงแต่งอาหาร รวมทั้งระดับ MRL ที่ก�าหนดใหม่ ต่อ MHLW โดยตรง จนถึงวันที่ 27
พฤษภาคม 2554 หากพ้นก�าหนดนี้ให้แจ้งผ่านทางระบบ SPS รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ที่มา มกอช. วันที่ 23 พ.ค. 54
สถานการณ์ด้านเกษตร
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
11
อนุมัติกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกร 500 ล้านบาท นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี ได้มี
มติตามคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 เห็นชอบให้จัดสรร
เงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ จ�านวน500ล้านบาท ก�าหนด
ช�าระคืนภายใน5ปี เพื่อด�าเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกร โดยจะ
สนับสนุนเงินทุนแก่กลุ่มเกษตรกร ที่ได้มาตรฐานปีละ 1,400กลุ่มซึ่งกลุ่มเกษตรกรที่จะขอรับ
การสนับสนุนเงินทุน จะต้องท�าโครงการส่งเสริมการผลิต การรวบรวม หรือแปรรูปผลิตผล
ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินชดเชยปุ๋ย ตันละ1.5พันบาทธ.ก.ส. ประกาศพร้อมจ่ายเงินชดเชยโครงการปุ๋ยลดต้นทุนแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ
ประกันรายได้ปี 53/54 ในอัตราตันละ 1,500 ล้าน
บาท วงเงินรวม 3,450 ล้านบาท พร้อมเตรียม
วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ให้เกษตรกรกู้ซื้อปุ๋ย
ยันขึ้นทะเบียนร้านค้าในท้องถิ่นกว่า 7,000 ร้าน
ค้า เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่เกษตรกร
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 54 นายกรณ์ จาติกวณิช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธาน
คณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามมติคณะ
รัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่เห็นชอบให้ด�าเนินงานโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุน
การผลิตของเกษตรกรโดยก�าหนดราคาปุ๋ย 6 สูตร คือ 46-0-0, 16-20-0, 16-16-8, 19-8-8,
18-12-6, และ 15-15-15 พร้อมเห็นชอบให้มีการชดเชยส่วนต่างราคาปุ๋ยเคมีให้แก่ผู้เข้าร่วม
โครงการนี้ ในอัตรากิโลกรัมละ 1.50 บาทหรือตันละ 1,500 บาท อ่านต่อคลิก http://www.
thairath.co.th/content/eco/172905
ที่มา thairath วันที่ 20 พ.ค. 54
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
12
หรือผลิตภัณฑ์ เสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาเงินกู้ระดับจังหวัดเพื่อประกอบการพิจารณา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ได้
ท�าการส�ารวจกลุ่มเกษตรกร จ�านวน
1,139กลุ ่ม ใน 67จังหวัด ที่กู ้ เงิน
โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อ
พัฒนากลุ่ม เกษตรกร ซึ่งด�าเนินการ
ตั้งแต่ปี 2549-2553ซึ่งกลุ่มเกษตรกร
ได้กู ้ยืมไปจัดหาอุปกรณ์การเกษตร
และให้สมาชิกกู ้ยืมไปลงทุนท�าการ
เกษตรและรวบรวมผลผลิต โดยกลุ่ม
เกษตรกรส่วนใหญ่เสนอขอรับการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกรเพิ่มขึ้น
จากเดิม เนื่องจากเงินกู้ที่ได้รับจากโครงการเดิมไม่เพียงพอ เพราะจ�านวนสมาชิกเพิ่มขึ้น
การพิจารณาอนุมัติเงินกู้แก่กลุ่มเกษตรกร จะพิจารณาจากประวัติของกลุ่มเกษตรกรเป็น
หลัก ซึ่งอาจจะอนุมัติเงินให้กับกลุ่มเกษตรกรเดิมที่เคยกู้เงินจากกองทุน สงเคราะห์เกษตรกร
หรือเป็นกลุ่มเกษตรกรใหม่ แต่มีประวัติดี ไม่ค้างช�าระหนี้ เป็นกลุ่ม ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
และน�าไปลงทุนใน ธุรกิจที่ไม่เกิดความเสี่ยง ซึ่งกลุ่มเกษตรกรที่มีความประสงค์จะขอกู้เงิน
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ที่ตั้ง อยู่ในแต่ละอ�าเภอได้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรรวมตัวกันเพื่อหาแหล่งทุนเท่านั้น ซึ่งยังไม่ช่วยแก้ปัญหาการ
ประกอบอาชีพที่แท้จริงได้ ดังนั้นกลุ่มเกษตรกรควรมีเป้าหมายการรวมตัวที่ มากกว่านั้น เพื่อช่วย
แก้ไขปัญหา ทั้งในเรื่องปัจจัยการผลิต การถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตร และ
การรวมกันขายผลผลิต ซึ่งเป้าหมายของการอนุมัติเงินให้กู้ยืมในครั้งนี้ จึงมิใช่เพียงการน�าไป
ใช้ส�าหรับซื้อหาปัจจัยการผลิตอย่างเดียว แต่ควรจะมีการด�าเนินธุรกิจด้านอื่นด้วย รวมถึงควร
มีการเช่ือมโยงความร่วมมือและการด�าเนินธุรกิจกันในระหว่างกลุ่ม เกษตรกรเอง หรือเชื่อมโยง
กับสหกรณ์ เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรเกิดความเข้มแข็งและสามารถแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้
อย่างแท้จริงต่อไป.
ที่มา มกอช. วันที่ 19 พ.ค. 54
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
13
ผลิตเอทานอลจากมันเทศ ปัจจุบัน ประเทศไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจากการต้องพึ่งพาการน�าเข้าปริมาณน�้ามันจาก
ต่าง ประเทศในแต่ละปีมีมูลค่ามหาศาล การพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก
จึงมีความจ�าเป็นอย่างยิ่ง ส�าหรับประเทศไทยในระยะยาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งพลังงานจากชีวมวลซึ่งเป็นทางเลือกหน่ึงที่จะลดการน�าเข้าปริมาณ
น�้ามัน “เอทานอล” หรือ “เอทธิลแอลกอฮอล์” ที่ ได้จากการหมักพืชโดยใช้ผลผลิตทางการ
เกษตร อาท ิมนัส�าปะหลงั อ้อย ข้าวโพด ข้าว
สาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่างหวาน หัวผักกาด
หวาน มันฝรั่งและ มันเทศ เป็นต้น สามารถ
น�าเอทานอลที่ผลิตจากพืชดังกล่าวน�ามาผสม
กับน�้ามันเบนซินเป็น “แก๊สโซฮอล์” หรือน�า
มาผสมกับน�้ามันดีเซลเป็น “ดีโซฮอล์” พื้นที่
ปลูกมันส�าปะหลังในประเทศไทยในปัจจุบันมี
ประมาณ 6.8 ล้านไร่ ผลิตหัวมันสดได้ 17
ล้านตัน มีการน�าผลผลิตของหัวมันส�าปะหลัง
สดมากกว่า 50% ของผลผลิตทั้งหมดมาแปรรูปเป็นแป้ง ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตและ
ส่งออกแป้งมันส�าปะหลังมากที่สุดในโลกและแป้ง มันส�าปะหลังถูกน�าไปใช้ในอุตสาหกรรมหลาก
หลายประเภท ได้แก่ แป้งที่ใช้บริโภคในครัวเรือน ผงชูรส สารให้ความหวาน สิ่งทอ ไม้อัด
กาว พลาสติก สารดูดน�้าและกระดาษ เป็นต้น ผลผลิตหัวมันส�าปะหลังสดอีกส่วนหนึ่งใช้ เป็น
วัตถุดิบส�าคัญในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ ในขณะที่วัตถุดิบอีกชนิดหนึ่งคือ “กากน�้าตาล” ที่
ได้จากโรงงานน�้าตาลที่น�ามาผลิตเป็นเอทานอลได้ มีการน�าไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีมูลค่า
สูงขึ้นได้มากมาย เช่น อุตสาหกรรมเหล้า เบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต่างๆ อุตสาหกรรม
ที่เกี่ยวกับการหมักดอง อ่านต่อ http://www.ocsb.go.th/th/cms/detail.php?ID=1511&Sys
temModuleKey=economic
ที่มา OCSB วันที่ 19 พฤษภาคม 2554
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
14
ไทยเร่งเปิด FTA เปรูและชิลี ประตูการค้าสู่ตลาดลาตินอเมริกานางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าในระหว่างการ
ประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก (APEC Ministers Responsible for Trade: MRT) ครั้งที่ 17
ระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคม ที่ผ่าน
มา ณ บิ๊กสกาย มลรัฐมอนทานา ประเทศ
สหรัฐอเมริกา ได้มีการหารือระดับทวิภาคีกับ
ผู้แทนประเทศเปรู เกี่ยวกับความคืบหน้าใน
การเปิดเสรีการค้า (FTA) กับเปรู โดยในส่วน
ของเปรูยังคงต้องรอให้มีการเปิดรัฐสภาใหม่
หลังทราบผลการเลือกตั้ง รอบ 2 ซึ่งช่วงเวลา
ก่อนหน้าที่ประเทศไทยจะมีรัฐบาลใหม่ หลัง
การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.ค. ซึ่งหลังจากมีการเปิดสภาผู้แทนราษฎรแล้วกระทรวงพาณิชย์จะเสนอ
ให้สภาผู้แทน ราษฎรให้ความเห็นชอบ FTA ไทย - เปรู หลังจากที่ทั้งสองประเทศได้มีการลง
นามในการท�าข้อตกลงลดภาษีสินค้าส่วนแรก (Early Harvest) ไปแล้ว ซึ่งหากสภาผู้แทนราษฎร
ให้ความเห็นชอบก็จะมีผลบังคับใช้ในปลายปีน้ี โดยจะครอบคลุมสินค้าเกือบ6,000รายการ โดย
สินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถปิคอัพ เม็ดพลาสติก ยางพารา ส่วนสินค้า
ที่เปรูจะได้ประโยชน์คือ กุ้ง น�้ามันปลาและยาฆ่าแมลง อ่านต่อ http://www.prachachat.
net/news_detail.php?newsid=1306066791&grpid=&catid=00&subcatid=0000
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 22 พ.ค. 54
สถานการณ์ด้านเกษตร
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
15
กรมส่งออกฯชี้หนี้อียูไม่มีผลกระทบการค้าไทยไปยุโรป เตือนผู้ส่งออกเลือกลูกค้า
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึงความกังวลจากปัญหา
หนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป(อียู)ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ของโลก และสร้างความกังวลให้กับส่งออกไทยที่ตั้งเป้าหมายให้ขยายตัวทั้งปีที่ 15% โดยตลาด
อียูคาดว่าจะส่งออกเพิ่มไม่น้อยกว่า 10% หรือ 20,177 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เน้นให้ผู้ส่งออก
ตรวจสอบและเลือกที่จะท�าการค้ากับประเทศที่มีระบบการเงิน ที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งสร้างระบบ
โลจิสติกส์และหาแหล่งวัตถุดิบคุณภาพจะท�าให้การค้าได้ตาม เป้าหมาย
ในเบื้องต้นคาดหมายได้ว่า คณะกรรมการกลางธนาคารกลางสหภาพยุโรป(อีซีบี) มีมติคง
อัตราดอกเบี้ยนโนบายไว้ที่ระดับ 1.25 ต่อปีต่อไป ด้วยเหตุผลว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันมี
ความเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อภาระประเทศที่
ประสบปัญหาทางการ เงินในปัจจุบัน คือ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และกรีซ(พีไอจี) ฉะนั้นคงจะ
พิจารณาเรื่องดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป อ่านต่อ http://www.prachachat.net/
news_detail.php?newsid=1305897250&grpid=&catid=00&subcatid=0000
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 20 พ.ค. 54
เอเปคเห็นพ้องเปิดเสรีตลาดอาหาร เจ้าหน้าที่การค้า 21 ชาติสมาชิกเอเปค ยืนยันไม่
ควบคุมราคาอาหาร และเปิดแข่งขันอย่างเสรีที่ประชุมเจ้า
หน้าที่การค้า กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค
เอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่มอนตานา สหรัฐ ออก
แถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้มีการเปิดเสรี และสร้างความโปร่งใสในตลาดอาหารเอเปค ระบุ
ว่าการเปิดตลาดจะช่วยรับประกันถึงความมั่นคงในด้านอาหาร ด้วยการเพิ่มความน่าเชื่อถือใน
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
16
ครั้งนี้ บริษัทรายใหญ่ๆ ต่างผลักดันให้มีการเปิดเสรีตลาดอาหารมากขึ้น โดยแถลงการณ์ร่วม
ของแกนน�านักธุรกิจที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เรียกร้องให้เอเปค ให้ค�ามั่นถึงการยกเลิกการควบคุม
การส่งออกอาหารทุกรูปแบบนายสกอตต์ ไพรซ์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) วอล มาร์
ท เอเชีย มองว่า วิธีการดีที่สุดคือ การลดภาวะไร้ประสิทธิภาพในการจัดเก็บผลผลิต ไม่ใช่
การควบคุมส่งออก โดยยกตัวอย่างของอินเดีย ที่ต้องสูญเสียผลผลิตไปถึง 40% หลังการเก็บ
เกี่ยวแล้ว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ 22 พ.ค. 54
31 พ.ค.หมดเวลาส่งงบการเงิน ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้านายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ เปิดให้
นิติบุคคลทีมีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ต้องน�าส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนา
ธุรกิจการค้าจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 นี้ โดยคาดว่าปีนี้จะมีนิติบุคคลราว 4 แสน
ราย จากจ�านวนนิติบุคคลที่ยังคงสภาพการประกอบธุรกิจทั้งหมด 5.4 แสนรายทั่วประเทศที่จะ
ต้องส่งงบฯ กรมฯ จึงได้ ลดจ�านวนของเอกสาเหลือเพียงชุดเดียวเหมือนกันทั่วประเทศ และ
เปิดให้บริการรับงบการเงินทั่วประเทศ 86 แห่ง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 3 กระทรวง
พาณิชย์ จังหวัดนนทบุรี ส�านักงานพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้ง 5 เขต ส�านักงานพัฒนาธุรกิจ
การค้าจังหวัดทั่วประเทศ และที่ท�าการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ต้องน�าส่งงบการเงินให้เร่งด�าเนินการ และท�างบการ
เงินส่งแต่เนิ่น ๆ หากไม่น�าส่งงบการเงินหรือไม่ส่งส�าเนาบัญชีผู้ถือหุ้น ภายในระยะเวลาที่
กฎหมายก�าหนดจะมีความผิดต้องโทษปรับ และกรมจะด�าเนินคดีกับ นิติบุคคลที่ไม่ส่งงบ
การเงินทุกราย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 22 พ.ค. 54
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
17
ดเีดย์ 15 มถินุายน 2554 เปิดจดทะเบยีนแรงงานต่างด้าว
วันที่ 9 พฤษภาคม 2554 เวลา 10.30 น. ณ ห้อง
ประชุมชั้น 10 กรมการจัดหางาน ปลัดกระทรวงแรงงาน
นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ เป็นประธานการประชุม
ซักซ้อมความเข้าใจการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบ
หนีเข้า เมืองสัญชาติ พม่า ลาว กัมพูชา รวมทั้งผู้
ติดตามที่เป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 15
ปี ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ 26 เมษายน 2554
ซึ่งจะเริ่มเปิดจดทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน
2554 อ่านต่อคลิก http://wp.doe.go.th/node/208
ที่มา ส�านักบริหารแรงงานต่างด้าว วันท่ี 18 พ.ค. 54
ลดภาษี AFTA ไทยผงาด TOP 5 ส่งออก-น�าเข้า นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อ�านวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัย
หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลส�ารวจการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในรอบ 1 ปี
หลังจากความตกลงเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ก�าหนดให้ลดภาษีสินค้าทั้งหมดเป็น 0%
ในวันที่ 1 มกราคม 2553 พบว่า ปี 2553 ส่งออกได้ 36,239 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก
ปีก่อนที่ส่งออกได้ 25,981 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 39.5% ส่งผลให้ไทยมีส่วนแบ่ง
ตลาด 35.8% โดยสินค้าส่งออกส�าคัญของไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าและ
อิเล็กทรอนิกส์ 1.23% ปิโตรเลียมและถ่านหิน 0.85% และกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน 2.69%
สาเหตุที่การค้าไทยในอาเซียนเพิ่มขึ้นเพราะได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาเซียน
แต่ในระยะยาวยังไม่อาจสรุปได้ว่าไทยยังได้เปรียบการค้า ดูจากส่วนแบ่งการตลาดในสินค้าแต่ละ
ชนิดพบว่าแต่ละประเทศยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดในสินค้ากลุ่มเดิม โดยสิงคโปร์และเวียดนาม
ที่เน้นท�าการค้ามากกว่าเป็นแหล่งผลิตก�าลังมีการรุกตลาดอาเซียนมากขึ้น
WEEKLY BRIEFTFPA Trade & Technical
24-30 May 2011
18
อย่างไรก็ตาม หากเทียบมูลค่าการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่าน
มา นับตั้งแต่ปี 2549-2553 ประเทศสิงคโปร์เป็นผู้ส่งออกสินค้ารวมมากที่สุดโดยตลอด ด้วยสัดส่วน
เกือบ 50% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดในปี 2553 ที่มีมูลค่า 106,605 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาคือ
มาเลเซีย ไทยและอินโดนีเซีย ด้านการน�าเข้า ประเทศสิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่น�าเข้าสินค้ามาก
ท่ีสุด คิดเป็นมูลค่า 74,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเป็นประเทศที่เน้นการค้ามากกว่าการผลิต
นายอัทธ์ กล่าวว่า จากการ
ส�ารวจการส่งออก 18 กลุ่มสินค้า
ภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ที่มี
สัดส่วน 80% ของการส่งออกไทย
พบว่า สินที่ไทยได้ส่วนแบ่งตลาด
เพิ่มขึ้น มีหลายรายการ ได้แก่
ข้าวสาร มันส�าปะหลังสด ปลาสด
แช่แข็ง เนื้อสัตว์ น�้าตาล เครื่องด่ืม
ยาสูบ สิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่ม เครื่อง
หนัง ผลิตภัณฑ์ไม้ ปิโตรเลียม-
ถ่านหิน ผลิตภัณฑ์ยาง เหล็ก ยาน
ยนต์ เครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีส่วนแบ่งตลาดลดลง ได้แก่ ยางพารา ผัก-ผลไม้
กระดาษ-สิ่งพิมพ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก
ทั้งนี้ หากพิจารณาการส่งออกสินค้าส�าคัญเปรียบเทียบส่วนแบ่งตลาดก่อน-หลัง AEC อย่างเช่น
ข้าวสาร เดิมเวียดนามมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 75.72% แต่ลดลง 4.34% เหลือเพียง 71.38% ใน
ขณะที่ไทยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 มีสัดส่วน 22.37% เพิ่มขึ้นจากเดิม 5.24% ด้านผักและผลไม้
ไทยส่งออกเป็นอันดับ 1 แต่ส่วนแบ่งลดลง คือ มีส่วนแบ่ง 64% ขณะที่น�้าตาล เป็นสินค้าที่ไทยส่ง
ออกมากที่สุดในอาเซียน มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 77.05% ยางพารา ไทยยังครองส่วนแบ่งตลาด
มากที่สุด ทั้งก่อนและหลังการเป็น AEC โดยส่วนแบ่งลดลงเล็กน้อย จาก 69.35% เป็น 64.02%
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ วันที่ 25 พ.ค. 54
Vol. 2 Issue 1824-30 May 2011
19
THAI FOOD PROCESSORS’ ASSOCIATIONTel : (662) 261-2684-6 Fax : (662) 261-2996-7www.thaifood.org E-mail: [email protected]
สมาคมผู้ผลิตอาหารส�าเร็จรูป ขอขอบคุณเว็ปไซต์ ดังต่อไปนี้1. http://www.thannews.th.com 6. http://www.dailynews.co.th2. http://www.thairath.co.th 7. http://www.acfs.go.th3. http://www.bangkokbiznews.com 8. http://www.posttoday.com4. http://www.tnsc.com 9.http://www.matichon.co.th5. http://www.prachachat.net
เสนอข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
th